รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10: เซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
Please wait...
ENTERPRISE IT UPDATE
รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10: เซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10: เซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก “ที่มองการณ์ไกล”

HPE ProLiant ML30 Gen10


ด้วยราคาที่ไม่สูงจนเกินไปและยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ทำให้มันเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงอย่างเต็มตัว ในฐานะเซิร์ฟเวอร์เครื่องแรกสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดเล็ก
 

ข้อดี

คุ้มค่าสุดๆ กับ Xeon E-2100 CPU พร้อมตัวเลือกสำหรับพื้นที่จัดเก็บที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้มีศักยภาพในการปรับขยายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมี iLO 5 ที่สามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกลได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมตัวเลือกอย่าง ClearOS รวมอยู่ด้วย
 

ข้อเสีย

ราคาที่แสดงไว้นี้ยังไม่รวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล(Storage)และยังจำเป็นที่จะต้องอัพเกรดในส่วนของ iLO5สำหรับการควบคุมระยะไกลของระบบปฏิบัติการ (OS) และการตรวจสอบพลังงาน(Power Metering) 
 

คำตัดสิน

สุดยอดของเซิร์ฟเวอร์ทาวเวอร์สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังมองหาวิธีที่เหมาะสมในการขยายการบริการด้านไอทีของพวก และ ProLiant ML30 Gen10 ก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงจนเกินไป
 
HPE ProLiant ML30 Gen10 ได้รับการเปิดตัวในฐานะของ Tower Server ขนาดจิ๋วรุ่นล่าสุด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้น (Entry-Level) ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำฟีเจอร์ของเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรมาสู่ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากนี้ทาง HPE เองก็ยังมีการกำหนดเป้าหมายไปยังสำนักนักงานเคลื่อนที่ (Remote Office) และสำนักงานสาขา (Branch Office) ที่ต้องการเรียกใช้บริการแบบ On Premise นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมและหลากหลายมาให้ใช้กัน ซึ่งราคาที่ทาง HPE นำเสนอไปนั้น แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็ยังให้ความสนใจ
 
ยังมีอีกหลายอย่างที่จะทำให้คุณชื่นชอบในตัวของML30 Gen10 เพราะคุณสามารถที่จะจับคู่พลังการประมวลผลเพื่อให้เข้ากับงบประมาณของคุณได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจาก HPE มีการนำเสนอตัวเลือกของIntel Xeon E-2100 CPU มาให้คุณถึง 7 แบบ และคุณก็ยังสามารถที่จะเลือกใช้ชิปCore i3 หรือ Pentium G ที่ราคาถูกกว่าได้ ส่วนราคาที่เราโชว์ไว้นั้นจะเป็นราคาสำหรับเครื่องที่เรานำมารีวิว ซึ่งจะมาพร้อมกับซีพียู Xeon E-2134 3.5GHz แบบ 4 Core ที่ทำงานร่วมกันกับหน่วยความจำ DDR4 แบบ ECC (Error Checking and Correction) ขนาด 16GB ที่มีความเร็วสูงถึง2666 Mhz โดยที่มันสามารถขยายได้ถึง 64GB ได้อย่างสบายๆ 
 
นอกจากนี้คุณยังสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้นด้วยระบบปฏิบัติการ (OS) เนื่องจาก HPE ได้ร่วมมือกับ ClearOSและนำเสนอรุ่นที่ติดตั้งด้วยซอฟต์แวร์Linux ซึ่งเป็น Open Source ของ ClearOS มาให้ล่วงหน้า (Preloaded) จากโรงงาน โดยการเข้าใช้งาน Community Edition นั้นคุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของ Home และ Enterprise Editions ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งมันจะช่วยเปลี่ยน ML30 Gen10 ให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ธุรกิจแบบครบวงจร ด้วยการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นนับร้อยที่มีให้คุณเลือกใช้ ตลอดจนความสามารถในการจัดการจากส่วนกลางได้ทั้งหมดจากคอนโซลการจัดการ (Management Console) บน Web Browser

 

รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10 : ตัวเลือกสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Storage)

ML30 Gen10 นั้น เหมาะสมกับผู้ที่มีแผนการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และคุณยังสามารถเลือก Chassis ที่มี Drive Bay ทั้งแบบที่เป็น 4 X LFF แบบ non-Hot-plug (NHP) หรือ 4 X LFF แบบ Hot-plugหรือ 8 X SFF Hot-plug ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากด้านหลังของแผงที่อยู่ส่วนหน้าของตัวเครื่องที่สามารถปิดล็อคได้ เครื่องที่เราใช้ตรวจสอบนั้นมี Drive Cage แบบ SFF แต่อาจจะต้องหมายเหตุด้วยว่าราคาที่เราแสดงไว้นั้นเป็นราคาสำหรับรุ่นพื้นฐาน ที่ยังไม่ได้รวมฮาร์ดดิสก์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเพิ่มเติมเข้ามา ณ จุดขาย
 
ทุกรุ่นจะเริ่มต้นด้วยชิปSmart Array S100i แบบฝัง (Embedded) ของ HPE ที่เปิดใช้งานแบบRAID 0, 1, 10 และ 5 ในซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับไดร์ฟได้สูงสุด 4 ตัว ซึ่งมันจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อคุณมีรุ่น LFF แต่ในกรณีของเราจำเป็นที่จะต้องอัพเกรด เนื่องจากชิพ S100i สามารถรองรับเฉพาะไดร์ฟ SATA ได้เพียงสี่ตัวเท่านั้น เพื่อให้สามารถใช้งานช่องเสียบไดร์ฟแบบ SFF ได้ทั้ง 8 ช่อง คุณจึงจะต้องสั่งซื้อการ์ด HPE Smart Array แบบ PCIeเพิ่มเติม
 
HPE ยังมีการเสนอทางเลือกที่ดีขึ้นสำหรับการ์ดRAID โดยข้อเสนอแรกๆ นั้นมีไว้สำหรับ SME ที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งนั่นก็คือ Essential Smart Array E208i-p ที่มีราคาประมาณ$200 ที่ให้การสนับสนุนไดร์ฟSAS3/SATA แปดตัว และ RAID0, 1, 10และ 5สำหรับรุ่น E208e-pนั้น จะใช้สำหรับไดร์ฟที่ต่อพ่วงภายนอก ซึ่งจากทั้งสองกรณีคุณยังสามารถที่จะใช้การอัพเกรดเพิ่มเติม(Optional Upgrade) เพื่อที่จะเปิดใช้งานคุณลักษณะการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)ที่ปลอดภัยได้อีกด้วย
 
สำหรับทางเลือกที่สอง หากว่าคุณต้องการรุ่นที่มีประสิทธิภาพของ HPE พร้อมด้วยการสนับสนุน P408i-pที่มากกว่านั้น การเพิ่มเข้ามาสำหรับ RAID6 และยังรวมถึง Flash-backed write cache (FBWC) ขนาด 2GB จะทำให้คุณต้องมีค่าใช้จ่ายที่มีมากกว่า$400 นอกจากนี้เมนบอร์ดก็ยังมีSingle Slot สำหรับ M.2 NVMe SSD นั่นเป็นเพราะเราไม่มั่นใจในความความรอบคอบของการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการของคุณบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพียงตัวเดียวที่ไม่มีการป้องกันRAID นั่นเอง
 

รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10 : การออกแบบภายในและความสามารถในการปรับขยาย

หลังจากที่เราได้ปลดล็อคแผงด้านหน้า (Front Panel) ก็ยังสามารถเปิดแผงด้านข้างที่เผยให้เห็นการตกแต่งภายในที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี พร้อมการเข้าถึงที่ทำได้ง่ายสำหรับการอัพเกรดและการวางแผนบำรุงรักษา ระบบระบายความร้อนนั้นกว้างขวางเนื่องจาก CPU มีฮีทซิงค์แบบแอคทีฟ (Active Heatsink) ที่ประกอบไปด้วยพัดลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง9 ซม. ที่แผงส่วนท้าย (Rear Panel) ที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ในขณะที่ส่วนล่างของตัวเครื่องก็จะมีพัดลมอีกหนึ่งตัวที่อยู่ด้านล่างของ Drive Cage ซึ่งถูกครอบไว้ด้วยพลาสติกตลอดความยาวเพื่อกำหนดทิศทางการระบายความร้อนให้ครอบคลุมส่วนล่างของเมนบอร์ด
 
ที่ส่วนท้ายของตัวเครื่องที่ถูกปกปิดไว้ก็คือ สล็อต PCI-E ที่มีอยู่ 4 ช่อง อย่างไรก็ตามคุณอาจจะไม่ต้องการใช้พวกมันเพื่อการอัพเกรดเครือข่าย (Network Upgrades) นั่นเป็นเพราะเซิร์ฟเวอร์เครื่องนี้มีพอร์ตกิกะบิตในตัวติดตั้งมาให้แล้ว ส่วน สล็อต M.2 NVMe SSD นั้น จะอยู่ที่ด้านล่างของซ็อกเก็ตซีพียู (CPU Socket) และยังมีจุดยึด(Mounting Points) สำหรับความยาวของการ์ดทุกขนาด
 
นอกจากนี้ ในส่วนของเมนบอร์ดก็ยังมีพอร์ต SATA อีก 6 พอร์ต โดยมี 4 พอร์ตที่เชื่อมต่อผ่าน Fan-out Cable เพื่อไปยัง Backplaneของ Drive Cage ส่วนอีก2 พอร์ตที่เหลือก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ เช่น Optical Drive ที่ติดตั้งในคู่ของ Expansion Bay ขนาด 5.25 นิ้ว
 
สำหรับรุ่นตรวจสอบของเรานั้น ยังรวมถึง PSU (Power Supply Unit) ขนาด 500W ที่มีประสิทธิภาพระดับPlatinum และยังมีพื้นที่ว่างด้านล่างสำหรับ PSU ตัวที่สอง ที่จะถูกบรรจุเข้าไปเพื่อเพิ่มการทำงานแบบ Redundant (คือมีสองตัวในเครื่องเดียว)ในกรณีที่ตัวใดตัวหนึ่งพังก็ยังมีอีกตัวทำงานสำรองอยู่ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ก็ยังง่ายต่อการจัดหาโปรแกรมที่ช่วยในการปรับแต่ง (Utility) เช่นกัน นอกจากนี้มันยังใช้พลังงานเพียง 27W ในขณะที่เครื่องอยู่ในสถานะ Idle (เป็นสถานะที่เครื่องไม่ได้ถูกใช้งาน) และจะมีการใช้พลังงานสูงสุดเพียง 87W ด้วย CPU Core ทั้งหมด ภายใต้สภาวะโหลดสูงสุด (Maximum Load)
 

รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10 : การปรับใช้ระบบปฏิบัติการ (OS Deployment) และการจัดการ (Management)

เราสังเกตเห็นแท่งUSB ที่มีแบรนด์ HPE ติดตั้งอยู่กับพอร์ตแบบฝังตัวของเมนบอร์ด และจุดประสงค์ของมันก็เริ่มจะปรากฏชัดขึ้นเมื่อเราบู๊ตเซิร์ฟเวอร์ เพราะไดร์ฟนั้นจะประกอบไปด้วยยูทิลิตี้ Rapid Software Setup ใหม่ของ HPE โดยสิ่งนี้จะนำเสนอคอนโซลอัจฉริยะที่เราสามารถจะเรียกใช้การวินิจฉัย (Diagnostics), กำหนดค่า RAID และยังสามารถเลือกที่จะติดตั้งWindows และ VMware ESXi จากสื่อของเราเองหรือเลือกจาก ClearOS ที่โหลดไว้ล่วงหน้าในเซิร์ฟเวอร์
 
กลุ่มคนที่มีแบบแผนชีวิตแบบคนรุ่นก่อนๆ หรือที่เราเรียกกันว่า Traditionalists พวกเขาก็ยังสามารถที่จะใช้เครื่องมือมาตรฐานของ HPE Intelligent Provisioning ได้เช่นกัน เพราะมันให้ความความสะดวกในการปรับใช้ระบบปฏิบัติการที่ดีไม่แพ้กันกับที่พวกเขาเคยใช้มา เราได้ทดลองใช้มันเพื่อติดตั้ง Windows Server 2019 และพร้อมที่จะโหลดไดรเวอร์ที่ถูกต้องทั้งหมดภายใน20 นาที
 
หากการจัดการระยะไกล (Remote Management) เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ สำหรับคุณ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ ML30 Gen10 อย่างคอนโทรลเลอร์ iLO5 แบบฝัง (Embedded)ของ HPE ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะมันเป็นฟีเจอร์การจัดการระยะไกลที่ดีที่สุด ซึ่งหากไม่มี Enablement Kit แบบพิเศษ มันจะแชร์การเข้าถึงกับพอร์ตกิกะบิตเป็นอันดับแรก โดยสิ่งนี้จะนำเสนอ Web Console อัจฉริยะที่เต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของเซิร์ฟเวอร์และรายละเอียดที่จำเป็นเกี่ยวกับส่วนประกอบที่สำคัญ
 
นอกจากนี้มันยังมีการเข้าถึงโดยตรงเพื่อไปยังฝ่ายสนับสนุนของHPE แต่คุณจะต้องอัพเกรดด้วยAdvanced License เพื่อเปิดใช้งานการควบคุมระยะไกลของ OS, Virtual Media และการตรวจสอบพลังงาน (Power Monitoring)อย่างไรก็ตาม มันยังสามารถรองรับ OneViewของ HPE และเราเองก็สามารถที่จะเพิ่มลงในแอพพลิเคชั่นHyper-V ของห้องปฏิบัติการ เพื่อเฝ้าสังเกต CPU, การใช้พลังงานและอุณหภูมิ ตลอดจนควบคุมการใช้พลังงาน (Controlling Power) ได้อีกด้วย

 

รีวิว HPE ProLiant ML30 Gen10 : คำตัดสิน

ProLiant ML30 Gen10 เป็นเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบทาวเวอร์ที่มีความสามารถหลากหลายทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มองการณ์ไกล แม้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลและคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะต้องนำมาเป็นส่วนประกอบ แต่มันยังคงแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่า และดูเหมือนว่ามันจะน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์การจัดการระยะไกลระดับองค์กร (Enterprise-Class) ที่ยอดเยี่ยมจาก HPE


ดูสินค้า HPE เพิ่มเติมได้ที่ : 
https://bit.ly/2OO9Swk

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์