การใช้ Windows 10 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
การใช้ Windows 10 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การใช้ Windows 10 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคุณไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
 
Windows 10 ใช้เวลาสี่ปีในการสร้างตัวเองให้เป็นระบบปฏิบัติการชั้นนำสำหรับธุรกิจ ด้วยการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอและการเปิดตัวฟีเจอร์ต่างๆ อยู่เป็นประจำ จึงส่งผลให้มันมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ และเป็นสิ่งที่เริ่มต้นมาจากวิวัฒนาการที่มั่นคงของ Windows ซึ่งเป็นการผสมผสานของสิ่งที่ดีที่สุดระหว่างWindows 7 และ Windows 8 จนกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ทรงพลัง มีความยืดหยุ่นและมองการณ์ไกลได้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมทั้งการปรับปรุงในด้านต่างๆ ที่จะช่วยให้มันเป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
แต่ในขณะที่คุณยังสามารถได้รับผลประโยชน์ต่างๆ แม้แต่ในฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่เดิมนั้น Windows10 ก็จะเปิดโอกาสให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่ทันสมัยที่สุดของมัน ซึ่งก็อาจจะกล่าวได้ว่า หากไม่มีฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ว่านี้คุณก็จะไม่มีวันได้สัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุดจาก Windows 10
 
ซึ่งในบางแง่มุม สิ่งนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า Windows 10 ถูกสร้างขึ้นสำหรับเครื่องพีซีที่พวกเราใช้ในปัจจุบัน ในขณะที่พวกเราเองก็ได้มีวิวัฒนาการมาจากยุคของ Desktop PC ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Monolithic ที่มีการออกแบบให้องค์ประกอบซอฟต์แวร์ทั้งหมดบรรจุอยู่ใน Container ขนาดใหญ่ ไปจนถึงยุคที่ Mobile Computing ได้รับความนิยม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน หรือแม้แต่ในกรณีที่ต้องออกไปพบปะลูกค้า รวมทั้งการทำงานแบบที่ไม่ต้องมีตารางเวลาตายตัวจากที่บ้าน ซึ่ง Windows 10 ก็ได้นำสไตล์การใช้งานแบบเคลื่อนที่ (Mobile) เหล่านี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ และรูปแบบใหม่ของการโต้ตอบ (Interaction) ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมด้วยระบบสัมผัส (Touch Control) และวิธีการใช้ปากกาของ Windows Ink หรือแม้แต่การควบคุมด้วยเสียง (Voice Control) โดยผ่าน Cortana
 

ประสิทธิภาพที่มากขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า

ต้องคำนึงอยู่เสมอว่า คุณกำลังจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของวินโดวส์ 10 ด้วยฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า และฟีเจอร์เดสก์ท็อปเสมือน (Virtual Desktop) ของพวกเขาที่ได้รับการยกระดับ และมุมมองที่คำนึงถึงภารกิจ (Task) เป็นศูนย์กลาง ซึ่ง Windows 10 นั้น จัดว่ายอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้คุณลักษณะขั้นสูงของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เพื่อการขับเคลื่อนระหว่างแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างราบรื่น แต่พีซีรุ่นเก่าก็อาจจะไม่มีกำลังในการให้การสนับสนุน นอกจากนี้ Windows 10 ก็ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ทรงพลังสำหรับงานด้าน Creative แต่หากไม่มีโปรเซสเซอร์แบบ Quad-core, 6-core และ 8-core ที่ทันสมัย และกราฟิกโปรเซสเซอร์แบบ Ultra-Fast 3D ที่เร็วเป็นพิเศษแล้วล่ะก็ คุณก็จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของมัน
 
ในส่วนของ Elitebook 800 Series และ 1000 Series นั้น อัดแน่นไปด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i5 และ Core i7 รุ่นล่าสุดแบบ 4-core ที่มอบพลังขับเคลื่อนการทำงานด้วยความเร็วที่สูงถึง 4.2Ghz พร้อม RAM สูงสุด 32GB และ NVIDIA GPUs โดยเฉพาะบางรุ่นที่ต้องการเน้นด้านประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ที่กล่าวมานี้สามารถเปลี่ยนสิ่งที่มองดูเหมือนว่าเป็นแล็ปท็อปที่บางและเบา ให้เป็นเครื่องมือประสิทธิภาพสูง (High-Performance) ที่มีความสามารถในการจัดการ Workload ที่ยากที่สุดได้ และแม้แต่ EliteOne 1000 All-in-One ที่ขาดพลังในการขับเคลื่อนการทำงาน แต่ด้วย โปรเซสเซอร์ Core i5 และ Core i7 แบบ 6-core และหน่วยความจำ Intel Optane ที่เป็นตัวเลือก พวกเขาก็ยังสามารถจัดการงานต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
 
ความสามารถในการประมวลผล (Processing Power) นั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญ แต่ความเร็วในการจัดเก็บข้อมูล (Storage Speed) ก็ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน ขณะเดียวกัน แล็ปท็อปรุ่นเก่าก็อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของฮาร์ดไดร์ฟเชิงกล (Mechanical Hard Drives) ที่ช้ากว่า หรือแม้แต่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตต (Solid-State Storage) รุ่นเก่า ซึ่ง SATA และ nVME M.2 SSD รุ่นใหม่ในแล็ปท็อป Elitebook 800 Series และ 1000 Series นั้น จะช่วยให้ Windows สามารถ Boot ได้แทบจะในทันที ในขณะที่โหลดแอพพลิเคชั่นและแม้แต่ไฟล์มีเดียที่มีขนาดใหญ่โดยไม่เกิดความล่าช้า ในขณะที่คุณเองก็อาจจะคิดว่า Windows จะทำงานได้ดีกับฮาร์ดแวร์เก่าของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณคุ้นเคยกับระบบ Windows 7 ที่มีอยู่ แต่คุณอาจจะต้องรู้สึกประหลาดใจถึงความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน และคุณจะสัมผัสได้ด้วยตัวเองว่า Windows 10 นั้นให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลและไร้รอยต่อ มากน้อยเพียงใด
 
การเชื่อมต่อ (Connectivity) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดย 802.11n Wi-Fi และ HDMI และ USB 3.0 พอร์ต ก็ยังคงสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบบน Windows 10 แต่ด้วย 802.11ac Wi-Fi คุณจะได้รับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้นกับเครือข่ายสำนักงาน (Office Network) หรืออินเทอร์เน็ต ในขณะที่มาตรฐาน USB-C ใหม่นั้นจะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมโยงไปยังจอภาพ (Monitor) ด้วยความเร็วสูง หรือทำการตั้งค่าเดสก์ท็อปได้อย่างสมบูรณ์ผ่านสายเคเบิลเพียงเส้นเดียว นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังจะได้สัมผัส หากองค์กรของคุณกำลังทดลองให้มีการทำงานแบบ Hot-Desking หรือวิธีปฏิบัติงานในแบบอื่นๆ ที่มีความยืดหยุ่นในทำนองเดียวกันนี้
 

สุดท้ายแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ "จอแสดงผล" 

จอภาพที่มีความละเอียดระดับ HD (1366 x 768 Pixel) นั้นเป็นมาตรฐานความละเอียดของจอภาพเบื้องต้นที่ใช้ได้ดีในยุคของ Windows 7 แต่การทำงานแบบ Multi-Tasking และแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัยของ Windows 10 นั้น ต้องการพื้นที่ที่ใหญ่กว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแล็ปท็อปอย่าง EliteBook 840, 1030, 1040 และ 1050 จึงมาพร้อมกับหน้าจอ IPS แบบ Full HD ที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่แล็ปท็อป EliteBook 850 บางเครื่อง ก็ยังมีหน้าจอ Ultra HD ที่น่าทึ่ง คุณจึงสามารถทำงานได้มากขึ้นด้วยหน้าจอเพียงหน้าจอเดียวที่มีความคมชัด โดยที่ไม่ต้องมีหน้าจอขนาดใหญ่และใช้หน้าจอจำนวนมาก อย่างรุ่นก่อนๆ
 
หากรวมสิ่งต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันแล้ว คุณก็จะมีเครื่องจักรที่มีความสามารถมากกว่าอุปกรณ์ใดๆ เมื่อเทียบกันกับอุปกรณ์ของเมื่อห้าปีก่อน ตั้งแต่หน้าจอ Ultra HD ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำงานแบบ Multi-Tasking ไปจนถึงโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการ Workload ที่ยากที่สุด คุณก็จะรู้ว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากระบบปฏิบัติการของคุณได้มากขึ้น โดยการอัพเกรดให้เป็นชุดอุปกรณ์ล่าสุด
 

รูปแบบใหม่สำหรับวิธีการใหม่ๆ 

Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นมาเพื่อความยืดหยุ่นและคล่องตัว ดังนั้น คุณจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากฟีเจอร์ต่างๆ ด้วยแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักมากกว่า 2 กก. อย่างเมื่อสี่หรือห้าปีที่ผ่านมา สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีนั่นก็คือพีซีที่มีรูปแบบที่บางเบา เช่นเดียวกับ EliteBook 800 หรือ 1000 Series รุ่นล่าสุดของ HP พร้อมด้วยหน้าจอที่มีขนาดตั้งแต่ 13.3 นิ้ว ไปจนถึง 15.6 นิ้ว ซึ่ง EliteBook 800 Series นั้นมีน้ำหนักระหว่าง 1.35 กก. และ 1.78 กก. เท่านั้น ด้วยโครงสร้าง (Chassis) ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแม่นยำ โดยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MIL-STD 810G ที่ทนต่อการตกและการกระแทก
 
ที่มากไปกว่านั้น แล็ปท็อปในกลุ่ม EliteBook 800 และ 1000 Series ก็ยังมีตัวเลือกในรูปแบบที่เป็นฝาพับแบบมาตรฐาน (Standard Clamshell) และการออกแบบที่ช่วยให้สามารถปรับหน้าจอได้มากถึง 360 องศา และยังสามารถพับกลับหน้าจอเพื่อให้แบนราบไปกับฐานเพื่อสะดวกต่อการใช้ระบบสัมผัสหรือสไตลัส ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้พีซีใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำเสนองานในขณะที่ต้องยืนหรือจดบันทึก นอกจากนี้ในรุ่น 1000 Series ก็ยังมีแล็ปท็อปให้คุณเลือกตั้งแต่ขนาด 13.3 นิ้ว ไปจนถึง 14 นิ้ว ภายในตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ตั้งแต่ 1.26 กก. ไปจนถึง 1.36 กิโลกรัม แต่ด้วยพลังและการใช้งานของเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูง ทั้งหมดนี้ก็คงต้องยกความดีให้กับโปรเซสเซอร์ Core i5 และ Core i7 เจนเนอเรชั่น 8 ตลอดจนจอแสดงผลแบบ Full HD และ Ultra HD
 
ความสามารถในการเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ (Mobility) ก็จะไม่มีความหมายอะไร ถ้าคุณถูกบังคับให้ต้องดึงที่ชาร์จออก เพราะมันต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมงเพื่อเติมแบตเตอรี่ในช่วงกลางระหว่างวันที่วุ่นวาย แต่ยังโชคดีที่แล็ปท็อปรุ่นต่างๆ ที่กล่าวไปนั้นรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดถึง 16 ชั่วโมง พร้อมทั้งการชาร์จแบตเตอรี่อย่างรวดเร็วเพื่อให้คุณได้รับพลังงานกลับไปที่ 50% ภายในเวลา30 นาที ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ คุณจึงสามารถที่จะดำเนินงานต่อไปได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ต้องทิ้งช่วงการทำงาน แต่อย่างใด
 
ปัจจัยด้านฟอร์มแฟคเตอร์ (Form Factor) ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เมื่องานมากขึ้นการทำงานร่วมกันก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่คุณกำลังพูดคุยผ่าน Skype for Business หรือการประชุมทางวิดีโอ (Video-Conferencing) นั้น เว็บแคมและไมโครโฟนโมโนที่น่าสงสารของแล็ปท็อปรุ่นเก่าจะไม่สามารถทำสิ่งพื้นฐานที่ควรจะทำได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ EliteBooks ใหม่ 800 และ 1,000 Series เหล่านี้จะมาพร้อมกับเว็บแคม HD, ระบบลำโพงของ Bang & Olufsen และไมโครโฟน Multiple Array ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบด้านออกไปได้
 
ความคิดนี้ยังคล้ายคลึงกับ EliteOne 1000 All-in-One พีซีรุ่นใหม่ของ HP ซึ่งมีเว็บแคม Full HD แบบ Dual-facing, ระบบตัดเสียงรบกวนไมโครโฟนและลำโพง B&O พร้อม HP Audio Boost เพื่อรับประกันเสียงพูดที่ชัดและเคลียร์ พร้อมด้วยหน้าจอที่มีขนาดสูงสุดถึง 34 นิ้ว และการออกแบบระดับพรีเมียม เพราะนี่คือพีซีที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
 

ระบบรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยให้คุณรับมือกับภัยคุกคามแบบใหม่ได้

ไม่ว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์ทำงานอะไรก็ตาม Windows 10 ก็ยังเป็นระบบปฏิบัติการ Windows ที่ปลอดภัยที่สุดของ Microsoft เพราะด้วยคุณสมบัติต่างๆ มากมายที่จะช่วยปกป้องคุณจากมัลแวร์, การบุกรุกและภัยคุกคามอื่นๆ เพราะการมีฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ จะทำให้การป้องกันมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เมื่อพูดถึงในส่วนของระบบการยืนยันตัวตน (Authentication) ฟีเจอร์ Windows Hello ของ Windows 10 เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้นในการลงชื่อเข้าใช้ แต่จะต้องเพิ่มฮาร์ดแวร์ใหม่เข้าไป และคุณก็จะได้รับการรับรองความถูกต้องทางชีวภาพ (Biometric Authentication) ด้วยฮาร์ดแวร์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นใจได้ พร้อมทั้งตัวเลือกสำหรับการยืนยันตัวตนผ่านสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) ยกตัวอย่างเช่น การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยของ Client Security Manager ของ HP ในแล็ปท็อป EliteBook 800 และ 1000 Series คุณสามารถผสมผสานระหว่างการตรวจสอบ PIN หรือรหัสผ่านเข้ากับเครื่องอ่านลายนิ้วมือ (Fingerprint Reader) และแม้แต่การจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ผ่านทางเว็บแคมอินฟราเรด (Infrared Webcam) ที่ติดตั้งในตัวเครื่อง
 
นอกจากนี้ คุณยังจะได้พบกับฟีเจอร์ล่าสุดใน EliteOne 1000 All-in-One และจอภาพรุ่น EliteDisplay S Series ที่ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยที่ไม่ต้องยุ่งยากกับรหัสผ่านที่ซับซ้อน แต่ยังคงมีการควบคุมการเข้าถึงไฟล์และความปลอดภัยของข้อมูลเฉพาะตัวตามที่ Windows 10 อนุญาต
 
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะในระบบธุรกิจของ HP ซึ่งก็รวมถึง EliteBook Series นั้น เทคโนโลยี HP SureStart ได้เพิ่ม BIOS Protection ที่บังคับใช้กับฮาร์ดแวร์เพื่อป้องกันการโจมตีจาก BIOS และช่วยให้มันสามารถหยุดการดำเนินงาน (Halt Operations) และรักษาตัวเองได้ (Self-Heal) นอกจากนี้HP Sure Run ก็ยังช่วยให้กระบวนการและแอปพลิเคชั่นที่สำคัญทำงานได้แม้ในขณะที่มัลแวร์กำลังพยายามจะปิดมัน ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น HP Sure Recover ก็จะช่วยให้พีซีสามารถเอาชนะการโจมตีและกู้คืนระบบผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย
 
นอกจากนี้เทคโนโลยี HP Sure Click ก็ยังแยกเซสชัน (Sessions) ของเบราว์เซอร์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าการโจมตีบนเบราว์เซอร์จะไม่สามารถแพร่กระจายไปยังพีซีทั้งหมดได้ นอกจากนี้มันยังป้องกันการบุกรุกไฟล์ PDF ที่เปิดในเบราว์เซอร์ได้
 
และหากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในส่วนของร้านกาแฟ, เลานจ์ในโรงแรม, รถไฟ, เครื่องบินหรือพื้นที่ทำงานที่ต้องใช้ร่วมกัน เทคโนโลยี Sure View ของ HP อาจจะตอบโจทย์ให้กับคุณในข้อนี้ได้ เพราะคุณสมบัติที่สำคัญของแล็ปท็อป EliteBook และ EliteOne All-in-One นั้น จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวสำหรับหน้าจอของคุณ เพียงแค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียว คุณจะยังคงมองเห็นได้ แต่คนรอบข้างจะไม่สามารถมองเห็นหน้าจอของคุณได้
 
เราคิดว่า Windows 10 นั้นยอดเยี่ยมสำหรับฮาร์ดแวร์เกือบทุกชนิด แต่ด้วยปัจจัยในส่วนของ (Form Factors) ใหม่ล่าสุด, คุณลักษณะด้านความปลอดภัย (Security Features) และองค์ประกอบต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง (High-Performance Components) รวมทั้งฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การทำงานของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์