การที่ให้เราต้องรอในการติดตั้งอัปเกรด Windows 11 เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ไม่มีเหตุผลใดที่การอัปเกรด Windows 11 อย่าง 22H2 หรือ 23H2 ที่กำลังจะมาถึงจะต้องใช้เวลานานนับชั่วโมงกับเครื่องที่มี RAM, CPU และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็ว

การอัปเกรดเป็น Windows 11 เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันพอสมควร แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วระบบปฏิบัติการตัวใหม่จะใช้งานได้นานกว่าหนึ่งปี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าถึงได้ นอกเสียจากว่าคุณจะโชคดี เพราะทุกคนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ Windows 11 ได้

ประการแรก มีคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่ใช้งานปกติ แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ เนื่องจากเหตุผลต่างๆ ที่มักจะเกี่ยวข้องกับความสามารถของชิปรักษาความปลอดภัย TPM หรือข้อผิดพลาดบางอย่างของ CPU

ประการที่สอง สำหรับผู้ที่ได้ทำการอัปเกรดระบบไปแล้ว จะพบว่ามีปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการปล่อยเวอร์ชันอัปเดตอย่าง 22H2 ในเดือนกันยายน หรือการอัปเดตรุ่นต่อไปอย่าง 23H2 ที่คาดว่าจะเปิดตัวปีนี้ ในช่วงหนึ่งของปีที่แล้ว Dells ของฉันอัปเกรด Windows 11 เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน ในขณะที่ Samsung Galaxy Book Pro ที่ฉันซื้อมาเพื่อใช้งาน Wi-Fi 6E ที่ยังคงมีสภาพดีอยู่คงรอให้อัพเดตเช่นกัน บางคนบอกว่าอาจเป็นเพราะไดรเวอร์เครื่องพิมพ์บางตัว แต่ฉันคิดว่าไม่ใช่ เพราะ Samsung ของฉันไม่ได้ติดตั้งเครื่องพิมพ์ไว้ มันต้องเกิดจากสาเหตุอื่น แต่มันคืออะไรกัน?

อย่างไรก็ตาม ภายหลังฉันตัดสินใจอัปเกรดแล็ปท็อป Dell ของฉันเป็นเวอร์ชัน 22H2 การอัปเดตนี้ผ่านการตรวจสอบของ Windows Update ปกติ แต่ฉันเปิดใช้งานได้เมื่อฉันตรวจสอบการอัปเดตเกี่ยวกับ Dell Update, Office Update, Chrome และ Firefox ซึ่งเซสชันที่ดีที่สุดหลังการอัปเดต

อย่างไรก็ตาม Dell ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการอัปเดตจากเวอร์ชัน 21H2 เป็น 22H2 ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช่อัปเดตเป็นอุปกรณ์ที่มีแรม ซีพียู และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็วมาก

เมื่อฉันตัดสินใจในเวลา 15 นาทีว่านี่เป็นความคิดที่แย่จริงๆ ฉันอารมณ์เสียมากจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากฉันถูกล็อกไม่ให้เข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ ฉันคิดเป็นพ้นล้านรอบเกี่ยวกับจำนวนซีพียู แต่แล้วยังไง? ฉันก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมมันถึงใช้เวลานานขนาดนนี้ ในเมื่อการติดตั้ง Windows 11 นั้นรวดเร็วมากๆ แน่นอนว่าความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการอัปเดตเหมือนถูกทำให้ขายหน้า การติดอยู่ที่ 44% เป็นเวลาหลายนาทีหมายความว่าอาจมีบางอย่างเสียหายหรือติดขัด หรือว่าระบบมีปัญหา หรืออาจจะเป็นทั้งสามอย่างที่ว่ามา

หลายปีก่อน มาตรฐานของระบบ Windows ที่มีเลิกใช้ไปนานแล้ว มีกฎ Microsoft ที่ระบุว่า อะไรก็ตามที่ใช้เวลานานกว่าสองสามวินาทีจะต้องได้รับการจัดการแก้ไขอย่างเหมาะสม แต่ทว่าในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกผลักให้เป็นภาระของผู้ใช้งาน เหมือนกับว่าการปล่อยให้ผู้ใช้งานรอ เป็นเรื่องที่สามารถรับได้

ที่มา: https://bit.ly/40tVht5