Microsoft Teams ใช้พลังงานน้อยกว่าตอนเปิดตัวครั้งแรกถึง 50 เปอร์เซ็นต์
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
Microsoft Teams ใช้พลังงานน้อยกว่าตอนเปิดตัวครั้งแรกถึง 50 เปอร์เซ็นต์
Microsoft Teams ใช้พลังงานน้อยกว่าตอนเปิดตัวครั้งแรกถึง 50%

@m.jilapong via Twenty20

การทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Teams เทียบเท่ากันไม่ว่าจะใช้งานผ่านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สเปคต่ำหรือสูงก็ตาม ถือเป็นเป้าหมายระยะยาวของ Microsoft
          
Microsoft กล่าวว่า ณ ตอนนี้ แอปพลิเคชัน Teams ใช้พลังงานน้อยลง 50% เมื่อใช้งานการประชุมวิดีโอและนัดหมายประชุม ต้องขอบคุณการปรับปรุงแก้ไขการทำงานทั้งหลายที่ได้กระทำมาตลอดปี 2020 โดยทาง Microsoft มองว่า Microsoft Teams นั้นค่อนข้างเรียกร้องเยอะเลยทีเดียวสำหรับผู้ใช้ที่ใช้อุปกรณ์ค่อนไปทางสเปคไม่ค่อยสูง ซึ่งขาดฮาร์ดแวร์ที่ประมวลผลได้ดีอย่างที่อยู่ในรุ่นที่ราคาแพงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้ฟังก์ชันอย่างการประชุมออนไลน์ที่มีการสตรีมวิดีโอหลาย ๆ วิดีโอหรือมีการแชร์หน้าจอให้ทุกคนในสายดู
            
Microsoft กล่าวว่า กระบวนการปรับปรุงแอปที่ดำเนินการอยู่สำหรับแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันนี้มีการพัฒนาประสบการณ์สำหรับผู้ใช้ในสายธุรกิจมากมาย และนำไปสู่การปรับปรุงเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และได้กำหนดไทม์ไลน์สำหรับการปล่อยตัวอัปเดตปรับปรุงในช่วงหลายปีให้หลังมานี้
            
“หนึ่งในความท้าทายที่มาจากความที่ Teams ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายก็คือ ความต้องการสร้างประสบการณ์ที่เทียบเท่ากันในการใช้งาน Teams แม้จะใช้งานด้วยอุปกรณ์ Windows ที่มีนิเวศระบบแตกต่างกันมากก็ตามที” Robert Aichner ผู้จัดการโปรแกรมกลุ่มหลักที่ Microsoft กล่าว
            
"เรามุ่งเป้าที่จะสร้างประสบการณ์ในการโทรและการประชุมอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ฮาร์ดแวร์ระดับสเปคต่ำ เช่นเดียวกับผู้ใช้เวิร์กสเตชันระดับไฮเอนด์และจอภาพความละเอียดสูง หนึ่งในปัจจัยที่เราเล็งเห็นคือ ความแตกต่างในความต้องการพลังงานที่แตกต่างกันของกลุ่มลูกค้าต่างโปรไฟล์กัน โดยการทำให้การประชุม Teams เป็นไปโดยใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงการตั้งค่าใด ๆ"
            
Microsoft วัดผลการปรับปรุง โดยการสร้างเฟรมเวิร์กในการทดสอบที่คำนึงถึงสถานการณ์ที่ต้องใช้พลังงานแตกต่างกัน เช่น การประชุมทางวิดีโอและการแชร์หน้าจอ เพื่อประเมินกระบวนการสำคัญ ๆ ที่มักเกิดขึ้นในกิจกรรมเหล่านี้ จะได้ระบุโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งกระบวนการที่ว่านี้ มีทั้งการบันทึกจับภาพเนื้อหา การเข้ารหัส และการเรนเดอร์การประชุม
            
ตลอดระยะเวลา 17 เดือน Microsoft ปรับเปลี่ยนกระบวนการเหล่านี้ โดยเริ่มด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจับภาพวิดีโอในเดือนตุลาคม 2020 เพื่อลดภาระของ CPU เมื่อเปิดใช้งานกล้อง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้พลังงานลดลง 27%
            
Microsoft ยังมุ่งเน้นที่การปรับกล้องให้เหมาะสมโดยเฉพาะ โดยมุ่งเป้าไปที่การลดโหลดงานของ CPU ในการประชุมวิดีโอ และลดความซับซ้อนของโค้ดในด้านต่างๆ เช่น การเปิดรับแสงอัตโนมัติ การปรับสมดุลสีขาวอัตโนมัติ และการสร้างนามแฝงอัตโนมัติ
            
จากนั้น ยังมีปรับปรุงเพิ่มการรวบหลาย ๆ หน้าจอเพื่อให้แสดงผลเป็นภาพเดียวสำหรับส่วนกระบวนการเรนเดอร์ที่ตามมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2021ซึ่งทำให้การใช้พลังงานลดลงอีก 14% การเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนนี้ก็ทำให้มีผลพัฒนาเพิ่มขึ้นในปีถัดมาเล็กน้อย โดยค่อย ๆ ยกระดับจนมีการปรับปรุงประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ที่ 52%
            
“สิ่งที่เหมือนกันกับโครงการนำร่องปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอื่น ๆ ของเราก็คือ การปรับปรุงด้านการใช้พลังงานนี้มีการทดสอบปรับปรุงการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ผลตรงต้องการกับลูกค้าและตรงกับบริบทสภาพแวดล้อม” Aichner กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคอยประเมินแต่ละฟีเจอร์ Teams ตัวใหม่ที่เราวางแผนไว้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประสิทธิภาพของกระบวนการในแต่ละขั้นตอนที่มีอยู่ไม่ลดลง”
            
“ดังนั้น ในขณะที่เราออกนวัตกรรมฟีเจอร์ Teams ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันในรูปแบบใหม่ เรายังทุ่มเทเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์เหล่านี้ถูกปรับให้เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ทั้งหมด โดยไม่ต้องคำนึงถึงเครือข่ายและอุปกรณ์ของพวกเขา”


ที่มา: https://bit.ly/3Ctrw0O
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์