8 เคล็ดลับลดอาการล้าจากการมองจอเมื่อต้อง Work from Home
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
8 เคล็ดลับลดอาการล้าจากการมองจอเมื่อต้อง Work from Home

8 เคล็ดลับลดอาการล้าจากการมองจอเมื่อต้อง Work from Home




เราควรระวังอาการหมดไฟเมื่อต้องพึ่งพาหน้าจอในการทำเกือบทุกอย่าง นับตั้งแต่การประชุมไปจนถึงการเข้าผับเสมือน

วิกฤตโคโรนาไวรัสที่กำลังดำเนินอยู่นี้ได้เปลี่ยนการทำงานและชีวิตส่วนตัวของเราไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ โดยผลกระทบทางอ้อมหนึ่งก็คือการที่เราต้องพึ่งพาการใช้งานหน้าจอหนักขึ้นมาก

ไม่มีอีกแล้วการได้พักสายตาจากหน้าจอด้วยการไปผับหลังเลิกงาน ไปโรงละคร หรือออกไปทานอาหารนอกบ้าน หรือแม้แต่การไปกิจกรรมงานหรือประชุมต่าง ๆ ซึ่งก็นับเป็นสิ่งหนึ่งที่เคยช่วยให้เราได้พักช่วงหายใจจากการจ้องหน้าจอทั้งวันด้วยเช่นกัน เราเคยประชุมได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์และเจอหน้ากันตัวต่อตัว อย่างไรก็ดี มาตรการล็อคดาวน์เพื่อรับมือกับโรคระบาด COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ก็ทำให้เราต้องพึ่งพาหน้าจอมากกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่เพียงเพื่อการทำงาน แต่เพื่อดำเนินชีวิตในสังคมของพวกเราต่อไปเช่นกัน

เทคโนโลยีที่ช่วยให้พวกเราทำเช่นนี้ต่อไปได้นั้นน่ามหัศจรรย์มาก แต่การอยู่กับมันอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบหลายอย่าง เราจะต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปอีกนาน และไม่ว่าคุณจะกลัวว่าตัวเองจะหมดไฟหรือไม่  การปฏิบัติตามข้อควรระวังอย่างถูกต้องก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณไปต่อได้ในภาวะที่ต้องทำงานทางไกล โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของอาการล้าจากการมองจอ

 

เปิดใช้งานฟังก์ชันกรองแสงสีฟ้าบนเครื่องของคุณ

หนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะช่วยลดอาการปวดตาได้ในทันใด ก็คือการติดตั้งตัวกรองแสงที่ทำให้โทนสีจอแสดงผลของคุณอบอุ่นขึ้น
จากข้อมูลของ Prevent Blindness พบว่า ต่อให้ปกติดวงตาจะคอยทำการดูดซับแสงสีฟ้าเข้าไปอยู่แล้ว แต่การจ้องจอแสดงผลเป็นเวลานานๆก็อาจทำให้ปวดตาได้ ผลที่ตามมาอาจมีอาการระคายเคืองกับอาการเพ่งสายตาได้ยากร่วมด้วย
มีเครื่องมือมากมายอย่างเช่น f.lux และ Lightbulb ที่เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้ฟรีเพื่อเปลี่ยนสีโทนหน้าจอแสดงผลได้ทันที ผู้ใช้ MacOS กับ Windows 10 ยังสามารถเลือกฝังตัวกรองโหมดกลางคืนเข้าไปในระบบปฏิบัติการของตนเองได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้สามารถปรับได้ผ่านทางการตั้งค่าการแสดงผลของแต่ละระบบปฏิบัติการ ซ้ำยังสามารถเปิดใช้งานได้แม้แต่ในตอนกลางวันถ้าต้องการ ไม่ใช่แค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น

 

ละจากการทำงานมาพักเที่ยงนานขึ้นบ้าง

ความหรูเลิศของการได้ทำงานทางไกลก็คือเราไม่จำเป็นต้องเดินทางมาทำงานทุกวันอีกต่อไป ดังนั้นทำไมไม่ลองใช้เวลาที่เพิ่มขึ้นมานี้ยืดเวลาการทำงานทั้งสองฝั่งออกไปหน่อยล่ะ เราจะได้มีเวลาพอให้ไปพักบ่อยๆกับได้พักเที่ยงนานขึ้น?

ถ้าหัวหน้าคุณอนุญาต และคุณคำนึงถึงการประชุมและภาระหน้าที่ทั้งหมดที่คุณได้กระทำแล้ว การยืดเวลาทำงานออกไปจะช่วยให้ตาของคุณได้พักตามที่ต้องการ การใช้เวลาพักเที่ยงนานขึ้นโดยปราศจากจอจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยบำบัดอาการติดจอในช่วงระหว่างวัน คุณจะได้ไม่ล้าเกินไปในช่วงบ่าย ซ้ำยังสดชื่นขึ้นด้วยหลังเลิกงาน

มีหลายวิธีในการจัดสรรเวลา แต่วิธีที่ตรงที่สุดก็คือเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วง 8:30 ไปจนถึง 5:30 แทนที่จะทำงานตั้งแต่เก้าโมงถึงห้าโมงตามปกติ คุณจะได้ยืดเวลาพักเที่ยงของคุณเป็นสองชั่วโมง หรือไม่ก็แบ่งเวลา 90 นาทีออกเป็นพักสั้นๆ สองช่วงในแต่ละครึ่งของวัน

 

ปัดฝุ่นเครื่องพิมพ์-เครื่องสแกนของคุณบ้าง

สำหรับผู้ที่ทำงานแบบต้องอ่านเยอะๆหรือต้องจดบันทึก การพิมพ์เอกสารออกมาทำงานอาจเป็นวิธีดีที่สุดในการได้มาซึ่งช่วงเวลาอันล้ำค่าที่ไม่ต้องมองหน้าจอในแต่ละวันทำงาน

การพิมพ์เอกสารออกมาอ่านเพื่อหลีกเลี่ยงแสงจ้าจากหน้าจอ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ในเพื่อเลี่ยงการจ้องจอแสดงผลเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจทานเอกสาร อ่านจดหมาย หรือเพิ่มอรรถาธิบายในบทความ งานทั้งหมดเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมืออย่างคอมพิวเตอร์

คำแนะนำข้อนี้อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน อย่างไรก็ดี  ถ้าคุณกังวลว่าตัวเองจะเสียกระดาษไปเปล่าๆหลายรีมเพราะต้องทำงานวันต่อวัน  หรือถ้าคุณไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่เหมาะสมที่บ้าน คุณอาจจะอยากทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ต่อไป หรือคุณอาจต้องยั้งไว้ก่อนเพราะราคาค่าหมึกพิมพ์ที่ต้องเปลี่ยนหมึกอยู่บ่อยๆ

 

ลดการประชุมลงแล้วหันไปประชุมผ่านโทรศัพท์ให้มากขึ้น

การย้ายไปสู่การทำงานทางไกลในอนาคตที่คาดการณ์ไว้ ได้ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับแบ่งเวลาชีวิตในแต่ละวันของเรา การประชุมเองก็เลี่ยงจุดนี้ไม่พ้นเช่นกัน  บ่อยครั้งที่เราจำเป็นต้องใช้บริการประชุมผ่านทางวิดีโอเพื่อให้งานดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด  แต่ไม่ใช่ทุกการประชุมที่จะต้องทำแบบนั้น

เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะอยากเห็นหน้าเพื่อนร่วมงานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะต่างคนต่างก็ถูกแยกออกจากกัน แต่เราก็ควรพิจารณาว่าทุกการประชุมจำเป็นหรือไม่ แล้วลดจำนวนครั้งการประชุมที่ไม่จำเป็นลง ส่วนการประชุมที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นประชุมกันผ่านโทรศัพท์ดูดีไหม จะได้รักษาสายตาของทุกคนไว้ด้วย?

 

อย่าเพิ่งรีบเข้าสังคมออนไลน์ทันทีหลังเลิกงาน

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราถูกบังคับให้หาวิธีที่สร้างสรรค์มากขึ้นเรื่อยๆในการติดต่อเพื่อนฝูงและคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นผ่านทาง Zoom หรือ HouseParty หนึ่งในสิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างรื่นรมย์ที่สุดคือ “การเที่ยวผับเสมือนจริง” ที่คนทำงานทั้งหลายรวมไปถึงทีมงานของ IT Pro ต่างก็เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยอย่างยินดี

แม้ว่าคุณจะอยากผ่อนคลายหลังเลิกงานเพียงใด ก็ยังไม่ควรเข้าไปร่วมวงสังสรรค์ออนไลน์หลังเลิกงานในทันที คุณควรเว้นระยะเวลาเล็กน้อยให้กล้ามเนื้อสายตาคุณได้พัก อาจจะลุกขึ้นไปเดินสั้นๆ ไปหยิบขนม หรือว่าไปคุยกับคนที่อยู่ร่วมบ้านกับคุณ พยายามเว้นพื้นที่ในตารางเวลาไว้ให้ตัวเองพักหายใจบ้างตอนจัดสรรภาระออนไลน์ของตน จะได้มั่นใจได้ว่าคุณไม่ได้ติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต หรือสมาร์ทโฟนตลอดทั้งเช้า บ่าย เย็น

 

ลงทุนกับจอแสดงผลแบบพิเศษ

ไหนๆออฟฟิศก็จะปิดเป็นเดือนๆแล้ว ซื้อจอแสดงผลแบบพิเศษมาใช้อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า นี่จะยิ่งคุ้มเข้าไปอีกถ้าคุณมีแนวโน้มจะตาล้าได้ง่าย และใช้เพียงตัวกรองแสงสีฟ้าไม่เพียงพอ

ยังมีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอีกมาก เช่น จอแสดงผลของ NEC MultiSync EA271U ขนาด 27 นิ้วที่มีเซ็นเซอร์แสงสว่างในห้องและมีระดับแสงสีฟ้าต่ำ ผู้ผลิตอีกหลายเจ้าที่ไม่ใช่แค่ NEC ก็มีจอแสดงผลซึ่งออกแบบคุณสมบัติมาเพื่อสู้กับอาการตาล้าโดยเฉพาะ เช่น ASUS, BenQ, Dell, ViewSonic และอื่นๆอีกมากมาย

หลักๆก็คือการหาจอภาพแสดงผลที่มีระดับแสงสีฟ้าต่ำ มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูง และจอกระพริบน้อยครั้งไปจนถึงขั้นไม่มีเลย มีความละเอียดหน้าจอสูงจากจำนวน pixel per inch (PPI) อีกอย่างที่สำคัญก็คือดูว่าจอมีระบบกันแสงจ้าหรือไม่ และยอมให้ผู้ใช้แก้ไขปรับแต่งการตั้งค่าหน้าจอตามต้องการได้หรือไม่
 

เพิ่มแสงให้สภาพแวดล้อมการทำงานรอบตัว

แม้หลักฐานที่ค้นพบจะยังอยู่ในขั้นถกเถียงกันอยู่ว่าการมองจอในที่มืดทำให้สายตาเสียจริงหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นไปในแนวทางเดียวกันก็คืออย่างน้อยการทำเช่นนั้นเร่งให้สายตาล้าเร็วขึ้นจริง และยังอาจนำไปสู่ภาวะสายตาล้าช่วงสั้นๆได้อีกด้วย

การจัดสรรพื้นที่ออฟฟิศชั่วคราวอาจจะเป็นกุญแจในการรักษาความต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือว่าห้องนอน การเตรียมพื้นที่เหล่านั้นให้มีแสงสว่างเพียงพอนั้นสำคัญยิ่งกว่าการเตรียมดวงตาและจิตใจให้พร้อมสำหรับการเก็บตัวทำงานแบบมาราธอนเสียอีก ในลักษณะนี้ การเปิดม่าน เปิดไฟเมื่อจำเป็น หรืออาจมีการลงทุนซื้อโคมหัวโต๊ะมาใช้กเป็นสิ่งที่จำเป็นถ้าต้องการเพิ่มระดับแสงในห้อง

 

ลองหางานอดิเรกใหม่ๆทำ

นอกจากล็อคดาวน์จะช่วยประหยัดเวลาเดินทางแล้ว ยังช่วยให้เราได้มีเวลาเพิ่มอีกหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ จากที่เคยต้องใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการออกไปเที่ยวหรือพบปะผู้คน แต่ถึงแม้ว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การตามดูซีรีย์ทั้งชุดหรือซีรีย์ใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามา เราก็ยังไม่ควรใช้เวลาทั้งหมดเหล่านั้นไปกับกิจกรรมที่ต้องมองจอมากกว่าเดิมอยู่ดี

นี่อาจจะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบเมื่อนานมาแล้ว เช่นการทำอาหาร หรือออกกำลังกายให้มากขึ้น มีกิจกรรมอีกเป็นร้อยเป็นพันที่คุณสามารถทำได้ในช่วงล็อคดาวน์เพื่อความเพลิดเพลินในระหว่างพักสายตาหลังจากติดแหง็กอยู่กับคอมพิวเตอร์มาทั้งวัน สิ่งนี้อาจช่วยให้คุณรักษา work/life balance ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่เส้นแบ่งของทั้งสองมีแววจะพร่าเลือนได้ง่ายอีกด้วย


ที่มา: https://bit.ly/2Bw1X3I

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์