Please wait...
IT UPDATE ENTERPRISE
ถึงเวลาแล้วที่พีซียุคใหม่จะขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์

ถึงเวลาแล้วที่พีซียุคใหม่จะขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์


The Intelligence Driving the Next Generation of PCs

อุปกรณ์สำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดจำเป็นต้องยกระดับวิธีการทำงานของผู้คนโดยทำให้เหนือกว่าเพียงแค่การเปิดเครื่องทำงาน

 
ทุกวันนี้ สถานที่ทำงานกำลังวิวัฒนาการขึ้นเรื่อย ๆ ความเปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรมส่งผลให้บริษัทยิ่งต้องให้ความสำคัญกับตารางการทำงานแบบยืดหยุ่นและส่งเสริมพนักงานให้มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ และการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานมีประสิทธิผลและทำงานร่วมกันได้มากขึ้น และยิ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการทำงานแบบไฮบริด
 
การลงทุนกับเทคโนโลยี จึงหมายถึงการลงทุนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของคนทำงานของคุณด้วย จากการศึกษาโดย Brain on Tech ในปี 2020 พบว่า พนักงานบรรลุผลสำเร็จมากขึ้น 37% ในวันทำงานเมื่อใช้เทคโนโลยีที่ไม่เพียงแต่ใหม่กว่าเท่านั้น แต่ยังได้รับการสนับสนุนด้วยซอฟต์แวร์และบริการที่ทันสมัย ตอบสนองว่องไวและชาญฉลาด การทำเช่นนี้จะได้ผลประโยชน์สองทาง ก็คือ เทคโนโลยีที่ดียังส่งผลในทางดีกับความรู้สึกของลูกจ้าง และในบางกรณียังพอ ๆ กับการได้ดูคลิปลูกหมาเลยทีเดียว


ถึงเวลานิยามประสบการณ์พีซีแบบใหม่

เมื่อการทำงานแบบไฮบริดถือกำเนิดขึ้น องค์กรบางองค์กรก็เลือกใช้เทคโนโลยีแบบเหมารวมชุดเดียวกันทั้งองค์กรเพื่อตอบรับความต้องการของแรงงานที่บางคนเลือกเจอหน้ากันและบางคนออนไลน์ ในขณะที่หลายธุรกิจเลือกยกระดับและปรับตัวแนวปฏิบัติในออฟฟิศและการทำงานระยะไกล ลูกจ้างก็ต้องไป ๆ มา ๆ อยู่ระหว่างพื้นที่การทำงานและอุปกรณ์ซึ่งมีการเข้าถึงทีมไอทีได้อย่างจำกัด (ถ้ามีทีมไอทีล่ะก็นะ) ซึ่งยิ่งน่าหงุดหงิดตอนที่มีปัญหาด้านเทคนิค
 
ทั้งนี้ อุปกรณ์สำหรับการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดต้องยกระดับวิธีการทำงานของผู้คนโดยไปเหนือกว่าเพียงการเปิดเครื่อง เพราะไลฟ์สไตล์การทำงานแบบไฮบริดนี้เรียกร้องให้พีซีทำได้มากกว่าที่เคย ต้องประชุมวิดีโอคอลนับไม่ถ้วนและสลับสายทำงานหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันขณะใช้งานระบบที่มีประสิทธิภาพสูงและชาญฉลาดกว่า เห็นได้ชัดว่าประสบการณ์ของเราไม่ได้ถูกยึดโยงกับตัวพีซีเดี่ยว ๆ อีกต่อไปแล้ว เราจำเป็นต้องมีประสบการณ์พีซีพรีเมียมซึ่งมีระบบนิเวศน์ที่พึ่งพาได้คอยโอบรับ โดยระบบนี้จะส่งเสริมประสบการณ์ในทุกจุดที่คนทำงานต้องมีการใช้งานบนอุปกรณ์อย่างไร้รอยต่อ สิ่งนี้จะส่งผลกระทบกับการคงไว้ซึ่งประสบการณ์ในขณะที่เราทุกคนข้ามผ่านพื้นที่ของการทำงานกลับมาสู่บ้าน เดินทางบนถนนไปยังออฟฟิศ และกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้จะยังมีงานต้องทำอีกมาก แต่เราก็ก้าวหน้ามาได้เยอะเลยทีเดียว
 
ปัญญาประดิษฐ์เป็นตัวอย่างวิธีการที่เทคโนโลยีสามารถช่วยสร้างจุดสัมผัสที่ไร้แรงเสียดทานซึ่งยกระดับประสบการณ์พีซีขึ้นได้เกือบทุกแง่มุม
 

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ออกแบบมาเพื่อพีซี

การเติบโตของ AI กลายเป็นส่วนสำคัญของการวิวัฒนาการของพีซี โดยความสามารถของ AI จำเป็นต้องมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวบุคคล เลเยอร์ที่เพิ่มเข้ามานี้ จะทำให้พีซีจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่เคย โดย AI ช่วยลดแรงเสียดทานที่ไม่จำเป็นลงและสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวได้อย่างแท้จริง ผู้ให้บริการพีซียังสามารถปรับแต่งส่วนประกอบต่างๆ ได้ทันทีที่แกะกล่อง แต่นั่นเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น AI ยังยกระดับเกือบทุกด้านของพีซีได้อย่างที่ใช้งานได้จริง ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อวิธีการเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกัน และการทำงานของคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อรูปลักษณ์และเสียงของคุณด้วย
 
Dell ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งนี้ด้วย Dell Optimizer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ปลอดภัยซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเฉพาะตัว บริษัทไอทีชื่อ Freecon AG ในสวิตซ์เซอร์แลนด์ซึ่งเป็นลูกค้าของ Dell มีการใช้งานเทคโนโลยีนี้ Dario Ladu วิศวกรระบบที่ Freecon AG ระบุว่า “อะไรก็ตามที่ช่วยให้ผมทำงานได้มากขึ้น ก็คืออะไรก็ตามที่ Dell Optimizer ทำอยู่ ซึ่งช่วยให้พวกเราได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้นเลยทีเดียว”
 
ต่อไปนี้คือตัวอย่างเฉพาะของ Dell เกี่ยวกับว่าเราได้ทำงานเบื้องหลังกับ AI อย่างไรในการเปลี่ยนนิยามของประสบการณ์พีซี:

  • ลาก่อนเสียงรบกวนน่าหนวกหู: เราต้องเข้าใจก่อนว่าหากงานทำที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เสียงรบกวนก็อาจส่งผลทางลบในการประชุมทางไกลได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสถานการณ์น่าอับอายและตึงเครียดสำหรับคนทำงาน การใช้ AI Accelerator จะช่วยให้ตรวจจับเสียงพื้นหลังและนำเสียงเหล่านี้ออกไปไม่ให้ทุกคนในสายได้ยิน และยังช่วยเพิ่มระดับคุณภาพเสียง ต่อให้อยู่ห่างจากพีซี 6.5 ฟุตก็ฟังดูเหมือนอยู่ใกล้แค่ 1.6 ฟุตได้
 
  • ตัดสินใจว่าอะไรกำลัง “APPening”: เมื่อมีเวิร์กโฟลว์ที่ต้องทำงานหลายงาน เครื่องพีซีของคนทำงานอาจรับภาระหนักเมื่อเปิดหลายแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ประสิทธิภาพการทำงานพร้อม ๆ กันในขณะเดียวกัน โดย AI จะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ให้ง่ายขึ้น โดยทำการปรับแต่งแอปพลิเคชันที่ใช้ Traffic เครือข่ายสูง หรือจัดลำดับความสำคัญของแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญที่สุดตามตำแหน่งของผู้ใช้ในเวิร์กโฟลว์ ณ ช่วงเวลาใดก็ได้
 
  • พ่อมดหลังฉาก: AI ของเรากระจายเวิร์กโหลดโดยอัตโนมัติระหว่าง GPU และ CPU เพื่อช่วยให้คุณดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยถูกรบกวน AI จะวิเคราะห์วิธีการใช้ข้อมูลของคุณ แอปพลิเคชันอันดับต้น ๆ ของคุณ และวิเคราะห์ว่าต้องโหลดงานเท่าไหร่ลงใน CPU เพื่อรีดประสิทธิภาพจากพีซีให้ได้มากที่สุด
 
  • ชาร์จหรือไม่ชาร์จ: ทุกคนมีนิสัยการใช้งานแบตเตอรี่ที่ต่างกัน ไม่ว่าเสียบชาร์จแล็ปท็อปไว้ทั้งวัน หรือทำงานที่สนามบินจนสูบแบตเตอรี่เหี้ยน หรือลืมชาร์จทิ้งไว้ตอนกลางคืน ซึ่งหากใช้อัลกอรึทึมช่วย เราจะตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้ชาร์จบ่อยแค่ไหน และชาร์จที่ไหนบ่อยสุด เพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดของแบตเตอรี่ออกมาและเพิ่มอายุการใช้งาน
 
  • สุนัขเฝ้าระวังความเป็นส่วนตัว: AI สามารถช่วยรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลได้แม้คนทำงานจะเลือกทำงานระยะไกลก็ตาม ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะใน Dell Optimizer จะช่วยให้เราซ่อนข้อมูลบนหน้าจอถ้ามีใครอยู่ข้างหลังคุณ โดยมีระบบตรวจจับใครก็ตามที่กำลังมองหน้าจอของคุณจากด้านหลัง
 
ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้งาน AI
แม้ฟีเจอร์เหล่านี้จะดูใช้งานง่าย แต่ความก้าวหน้าเหล่านี้พัฒนามาอย่างยาวนานเพื่อเตรียมการสำหรับยุคใหม่แห่งการทำงานไฮบริดนี้ ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จอย่างน่าจดจำจากการใช้ AI ช่วยขับเน้นประสิทธิผลในการทำงานและประสิทธิภาพในองค์กรของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
 
People's Emergency Center ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ได้ติดตั้ง Dell Optimizer เวอร์ชันล่าสุดบนแล็ปท็อป Latitude ให้กับพนักงานทั้งหมดของตน โดย Kelly Durand ผู้อำนวยการฝ่ายการเรียนรู้ขององค์กร People's Emergency Center กล่าวว่า "ที่พักพิงฉุกเฉินเป็นสถานที่ที่มีเสียงดังอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการพูดคุยที่ได้ยินเสียงชัดเจนผ่านทาง Zoom หรือ Teams แต่การสนทนาเสมือนจริงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตของผู้คน เทคโนโลยีเสียงอัจฉริยะของ Dell Optimizer ช่วยเราได้จริง ๆ”
 
ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการใช้ AI หรือเข้าใจว่ามันใช้งานได้ที่ไหนบ้างสำหรับการใช้งานเพื่อยกระดับประสบการณ์พีซีนั้นยังอยู่ในขั้นตั้งไข่ แต่มันจะคงอยู่ต่อไปแน่นอน ด้วยการวิจัยพฤติกรรมมนุษย์ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในปัจจุบันและความสัมพันธ์แบบไดนามิกระหว่างผู้คนและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เราจะพบเจอข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าที่จะช่วยพัฒนามีอิทธิพลต่อพัฒนาการของความสามารถด้าน AI ซึ่งอาจจะพ้นข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ไปแล้วก็เป็นได้
 
ที่มา: 
https://dell.to/3zt8Qy2
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์