รีวิว Lenovo ThinkSystem ST50 V2 เซิร์ฟเวอร์ทาวเวอร์ขนาดกะทัดรัดที่เสียงเงียบ
ความจุในการจัดเก็บข้อมูลพอประมาณ แต่เป็นเซิร์ฟเวอร์เริ่มต้นราคาไม่แพงสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีสำนักงานขนาดเล็กพอๆ กัน
ข้อดี
- คุ้มค่า
- Chassis ขนาดกะทัดรัด
- รองรับซีพียู Xeon E-2300
DDR4 ขนาด 128GB เสียงเงียบ |
ข้อเสีย
- ลำโพงภายในเครื่องเป็นอะไรที่เสียเวลา
- คีย์บอร์ดและเมาส์ที่แถมมามีราคาถูก
อะแดปเตอร์ไฟภายนอก |
ธุรกิจขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด และกำลังมองหาเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานครั้งแรก จะพบว่า ThinkSystem ST50 V2 ของ Lenovo เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ทาวเวอร์ขนาดเล็กที่สุดที่เราเคยเห็น มันได้ทดแทนรุ่น ST50 ที่มีอายุถึง 4 ปี และสิ่งแรกที่คุณจะเห็นในรุ่นใหม่นี้คือมีขนาดเล็กที่ลง
แชสซี ST50 มีปริมาตร 25 ลิตร และ ST50 V2 ลดลงเหลือ 17 ลิตร โดยมีความลึกของแชสซีเพียง 30 ซม. จึงสามารถวางไว้ใต้โต๊ะได้อย่างง่ายดาย พลังการประมวลผลเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ST50 V2 รองรับรายการ CPU ตระกูล Xeon E-2300 ของ Intel ทั้งหมด 10 ตัว และความจุหน่วยความจำถูกเพิ่มเป็นสองเท่าถึง 128GB ของ TruDDR4
ยังคงมีสล็อตขยาย PCIe ทั้งหมด 3 ตัวเหมือนเดิม แต่สล็อต x16 ได้รับการอัปเกรดเป็นรุ่น Gen4 ที่เร็วขึ้น แต่แชสซีที่มีขนาดเล็กส่งผลเสียต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เนื่องจากรองรับไดรฟ์ LFF ได้เพียงสองตัว และไดรฟ์ SFF ได้แค่หนึ่งตัวเท่านั้น (ST50 มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ LFF สี่ตัว) แต่ ST50 V2 มีช่องเพิ่มเติมบนเมนบอร์ดสำหรับ M.2 NVMe SSD
โครงสร้างและการออกแบบภายในของ Lenovo ThinkSystem ST50 V2
โครงสร้างที่แข็งแรงทำจากเหล็กทั้งหมด และแผงด้านข้างแบบถอดได้ สามารถล็อคหรือป้องกันด้วยตัวล็อค Kensington แชสซีขนาด 4U สามารถวางด้านข้างในตู้แร็คได้ แต่ว่าชุดอุปกรณ์ติดตั้งชั้นวางเสริมมีที่ให้วางเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นอีก 1U ทำให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย
การอัปเกรดทำได้ง่ายเนื่องจากเซิร์ฟเวอร์มีการตกแต่งภายในที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับเข้าถึงส่วนประกอบหลักทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ตะแกรงพลาสติกด้านหน้าสามารถถอดออกได้เฉพาะเมื่อแผงด้านข้างถูกถอดออกเท่านั้น และมีแผงแบบน็อคเอาท์สำหรับออปติคัลไดรฟ์และช่องใส่ไดรฟ์เพิ่มเติม
Lenovo มีฮีทซิงค์ CPU สองประเภทในเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่สำหรับชิปที่มี TDP สูงสุด 80W มาพร้อมกับ Xeon E-2386G แบบ 6-core ความเร็ว 3.5GHz และ TDP ที่สูงกว่า 95W ได้รับการจัดการโดยฮีทซิงค์แบบพาสซีฟ พร้อมท่อความร้อนที่ส่งไปยังหม้อน้ำแบบครีบ ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าพัดลมระบายความร้อนด้านหลัง
พัดลมด้านหลังทำงานคู่กับพัดลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 ซม. ที่ด้านหน้า และระดับเสียงรบกวนก็ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ เราแทบไม่ได้ยินเสียงเซิร์ฟเวอร์ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ทำงานอยู่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ที่ดีมากสำหรับสำนักงานขนาดเล็ก ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเสียง
ปริศนาด้านการจัดเก็บ
ระบบฐานมาพร้อมกับช่องใส่ฮาร์ดไดรฟ์แบบ LFF มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในฐานของเครื่อง และเราขอแนะนำให้ใส่ช่อง LFF ตัวที่สองด้านบนเพื่อเสริมการทำงานให้ดีขึ้น ไม่ควรใช้งานระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์บนไดรฟ์ตัวเดียว ซึ่งจะทำให้คุณสามารถสร้างอาร์เรย์ RAID ที่มีความเสถียรเพื่อป้องกันการล้มเหลวของฮาร์ดไดรฟ์ได้
คอนโทรลเลอร์ Intel VROC (Virtual RAID on CPU) ของเซิร์ฟเวอร์รองรับไดรฟ์ SATA และอาร์เรย์ RAID0, 1, 10 และ 5 ที่จัดการโดยซอฟต์แวร์ โดยอาร์เรย์ส่วนหลังสามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่คุณสั่งซื้อแบบ 'Special Bid' โดยจะมี SATA SFF และ SSD จำนวน 3 ตัว
SSD รูปแบบ M.2 NVMe ถูกติดตั้งที่ฐานของเมนบอร์ด แต่คุณสามารถมองข้ามสล็อต M.2 ที่อยู่ติดกัน เนื่องจากช่องนี้เป็นช่องสำหรับโมดูล Wi-Fi ที่ยังไม่พร้อมใช้งานในปัจจุบัน ด้านล่างการ์ด M.2 มีพื้นที่เพียงพอสำหรับถาดติดตั้ง SFF SSD ขนาดมาตรฐาน
เซิร์ฟเวอร์และคอนโทรลเลอร์ VROC รองรับเฉพาะช่องใส่ไดรฟ์ SATA แบบ 'simple-swap' หรือแบบ cold-swap ความสามารถแบบ Hot-swap ไม่ใช่ตัวเลือก แต่ Lenovo มีอะแดปเตอร์ RAID 5350-8i RAID ระดับเริ่มต้น หากคุณต้องการไดรฟ์ SAS ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
การจัดการและการตรวจสอบ
หากคุณวางแผนที่จะเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ภายในเครื่องเท่านั้น โปรดทราบว่า ST50 V2 มีตัวเชื่อมต่อ DisplayPort แบบคู่ และไม่มีพอร์ต VGA สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการใช้สายแปลง DisplayPort to VGA ของ Lenovo (Part: 57Y4393) ซึ่ง Amazon จำหน่ายในราคา 32 ปอนด์
เช่นเดียวกับรุ่นก่อน ST50 V2 ไม่ได้รับการสนับสนุนจากชิปการจัดการ XClarity Controller (XCC) ของ Lenovo แต่คุณจะได้รับ AMT (เทคโนโลยีการจัดการที่ใช้งานอยู่) 15.0 ที่มีมาในตัวของ Intel สำหรับการจัดการและการตรวจสอบการทำงานของเซิร์ฟเวอร์
ซึ่งเปิดใช้งานได้โดยการกด Ctrl-P ขณะที่อยู่ระหว่างการบู๊ต และการรักษาความปลอดภัยที่มีความเข้มงวด เนื่องจากต้องเปลี่ยนรหัสผ่านในการเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเปิดใช้งานระบบทำงานใด แต่ตัวเลือก CPU ของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าระบบการทำงานใดบ้างที่พร้อมใช้งาน
หากเลือกชิปแบบ Pentium G-series รุ่น dual-core คุณจะได้รับเฉพาะ Intel Standard Managementability (ISM) ซึ่งเป็นชุดย่อยของ AMT และให้คุณลักษณะด้านการจัดการทางฮาร์ดแวร์ เช่น การตรวจสอบคลังสินค้าฮาร์ดแวร์ การควบคุมพลังงาน การตรวจสุขภาพ การบันทึกเหตุการณ์ และการแจ้งเตือน AMT ได้รับการสนับสนุนโดย CPU Xeon E-2300 ทั้งหมด แต่หากต้องการเปิดใช้งานรีโมทคอนโทรล KVM ของ AMT คุณต้องระบุรุ่นที่มีกราฟิก Intel UHD ซึ่งมีหกรุ่นในหมวด 'G'
ชิป AMT สามารถเข้าถึงได้จากเว็บบราวเซอร์ และเพื่อใช้ KVM เราได้ติดตั้งโปรแกรม Manageability Commander ที่ฟรีจาก Intel ลงบนเครื่องโฮสต์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 นี้จะให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และกิจกรรมต่างๆ พร้อมทางเลือกในการเรียกใช้เซสชันระยะไกลไปยังเซิร์ฟเวอร์ผ่าน Remote Desktop
สำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่มีการช่วยเหลือ คุณต้องดาวน์โหลดไฟล์ ISO XClarity Provisioning Manager Lite ของ Lenovo และสร้าง USB ที่สามารถบู๊ตได้ และใช้งาน Rufus ได้ เมื่อนำมันมาใช้ จะแสดงอินเตอร์เฟซสำหรับการสร้างอาร์เรย์ RAID หรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ เราใช้ตัวเลือกการติดตั้ง OS ที่มีการช่วยเหลือเพื่อติดตั้ง Windows Server 2022 ต่างจาก XCC รุ่นเต็ม ตรงที่มันไม่รองรับ virtual media ดังนั้นภาพระบบปฏิบัติการของคุณจะต้องถูกนำเสนอผ่าน USB หรือ DVD
สรุป Lenovo ThinkSystem ST50 V2 คุ้มไหม?
ด้วยการรองรับ CPU Xeon E-2300 และหน่วยความจำ DDR4 ได้สูงสุดถึง 128GB ทำให้ ThinkSystem ST50 V2 มีพลังการทำงานอย่างเพียงพอในการรันแอปทางธุรกิจที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำงานกับการควบคุมแบบ Intel's AMT และ XClarity Provisioning Manager Lite ของ Lenovo ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีระบบการจัดการต่ำ
คุณสมบัติการจัดเก็บข้อมูลมีข้อจำกัดมากกว่า ST50 รุ่นเดิม แต่ข้อดีคือตัวเครื่องขนาดเล็กสามารถอยู่ได้เกือบทุกที่ ระบบการทำงานที่ไร้เสียงสามารถสร้างความพึงพอได้อย่างดี และด้วยราคาเริ่มต้นที่ต่ำเพียง £350 นี่จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และการทำงานระยะไกลที่มีงบประมาณจำกัด
ข้อมูลจำเพาะของ Lenovo Think System ST50 V2
|
Chassis
|
Tower/4U rack
|
|
CPU
|
6-core 3.5GHz Intel Xeon E-2386G
|
|
Memory
|
128GB 3,200 TruDDR4 ECC UDIMM (max 128GB)
|
|
Storage bays
|
2 x LFF, 1 x SFF, 1 x M.2 NVMe SSD
|
|
RAID
|
Intel VROC software-managed RAID0, 1, 10, 5
|
|
Storage included
|
1 x 8TB SATA HDD, 240GB M.2 NVMe SSD
|
|
Network
|
Embedded Gigabit
|
|
Expansion
|
1 x PCIe Gen 4, 2 x PCIe Gen 3 slots
|
|
Power
|
300W fixed PSU
|
ที่มา: http://bit.ly/47z3UFR
