Intel เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Alder Lake รุ่นที่ 12 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่สำหรับ Windows 11 โดยเฉพาะ

บริษัทชิปสัญญาว่ารุ่นนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 37% สำหรับงานที่ใช้ทรัพยากรมาก

Intel ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ตระกูล Intel Core เจนเนอเรชั่นที่ 12 ซึ่งประกอบด้วยโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปที่ปลดล็อคใหม่ 6 ตัว ซึ่งทั้งหมดได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับ Windows 11

ตระกูลนี้ประกอบด้วยชิปใหม่ 3 ตัว นำโดยรุ่นเรือธง Core i9-12900K ซึ่งมี 16 คอร์ แบ่งเป็น Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores) ด้วยความเร็วสูงสุด 5.2 GHz พร้อม การโอเวอร์คล็อก

Intel ยังได้เปิดตัว Core i7-12700K ซึ่งประกอบด้วยกันทั้งหมด 12 คอร์ และ 20 เธรด แบ่งออกเป็น P-core 8 ตัว และ E-core 4 ตัว รวมถึง Core i5-12700K ที่มีทั้งหมด 10 คอร์ และ 16 เธรด โดยมี P-cores 6 คอร์ และ E-cores 4 คอร์

ชิปทั้งสามรุ่นมีวางจำหน่ายทั้งแบบมีและไม่มีกราฟิก UHD ในตัวของ Intel 770

ตระกูล Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 แบบเต็มรูปแบบจะประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ 60 ตัว โดยกำหนดให้ขับเคลื่อนการออกแบบมากกว่า 500 แบบ จากพันธมิตรของบริษัท นอกจากนี้ยังเป็นช่วงแรกที่สร้างขึ้นภายใต้แบรนด์ Intel 7 ใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกว่าเทคโนโลยี 10nm เจนเนอเรชั่นที่สาม ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ปรับขนาดได้ตั้งแต่ 9 ถึง 125 วัตต์ เพื่อให้เข้าได้กับพีซีทุกแบบ ตั้งแต่แล็ปท็อปที่บางและเบา ไปจนถึงเดสก์ท็อปที่อึดและแกร่ง

Intel กล่าวว่าโปรเซสเซอร์นี้เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมที่นำเสนอหน่วยความจำ DDR5 สูงสุด 4800MT/s และ 20 PCIe lanes โดยแบ่งเป็น 16 PCIe 5.0 และ 4 PCIe 4.0 lanes

บริษัทชิปยังส่งเสริม Windows 11 ให้เป็นส่วนหลักของโปรเซสเซอร์ Alder Lake โดยเน้นให้ได้ทำงานร่วมกับ Microsoft ในซอฟต์แวร์ Intel Thread Director เพื่อการจัดการงานที่ดียิ่งขึ้นบนระบบปฏิบัติการใหม่ ว่ากันว่าซอฟต์แวร์จะแนะนำระบบปฏิบัติการเพื่อวางเธรดที่ถูกต้องบนคอร์ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม

ยิ่งไปกว่านั้นความก้าวหน้าในด้านประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติเธรด, ประสิทธิภาพการตอบสนองของ P-cores และความเร็วสูงที่นำเสนอโดย DDR5 จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการแก้ไขภาพเร็วขึ้น 36%, ประสิทธิภาพการตัดต่อวิดีโอเร็วขึ้น 32%, ประสิทธิภาพการสร้างแบบจำลอง 3D เร็วขึ้น 37%, และการเรนเดอร์หลายเฟรมเร็วขึ้นถึง 100%

Gregory Bryant รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปของ Client Computing Group ที่ Intel กล่าวว่า “สถาปัตยกรรมไฮบริดของประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นโดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งจะมอบประสิทธิภาพการเป็นผู้นำในระดับใหม่สำหรับคนรุ่นต่อไป”

และ “สิ่งนี้เริ่มต้นด้วยการมาถึงของ Core i9-12900K ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์เกมที่ดีที่สุดในโลก อีกทั้งคุณจะได้เห็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อยิ่งขึ้นเมื่อเราจัดส่งผลิตภัณฑ์ในตระกูล 12th Gen ที่เหลือและอื่นๆให้ ”

ขณะนี้โปรเซสเซอร์พร้อมสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าจาก OEM ที่เข้าร่วม, คู่ค้าช่องทางจำหน่าย และผู้ค้าปลีก ความพร้อมในการจำหน่ายวงกว้างจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน โดยมีพันธมิตรกว่า 140 รายในกว่า 30 ประเทศที่คาดว่าจะนำเสนอโปรเซสเซอร์นี้ได้ภายในสิ้นปีนี้

ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 264 ดอลลาร์ (191ปอนด์) ถึง 589 ดอลลาร์ (428 ปอนด์)

ที่มา: https://bit.ly/32dVOqI