HTTP vs HTTPS: ความปลอดภัยแตกต่างกันอย่างไร
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
HTTP vs HTTPS: ความปลอดภัยแตกต่างกันอย่างไร

HTTP vs HTTPS: ความปลอดภัยแตกต่างกันอย่างไร?



เรามาดูความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้และจะบอกวิธีการเปลี่ยนสลับระหว่างกัน

 
ในอดีตการเพิ่ม "S" ที่ส่วนท้ายของ HTTP ทำให้ผู้ใช้เว็บสามารถข้ามข้อจำกัดในการท่องเว็บและเข้าถึงเว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่มักจะถูกบล็อกโดยโรงเรียนและนายจ้างได้ เช่น Facebook แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ HTTPS คืออะไร?
 
ปัจจุบันตัว "S" ที่อยู่ท้ายสุดมักเกี่ยวข้องกับชั้นความปลอดภัยพิเศษและนั่นคือควาหมายที่แท้จริงของมัน แม้ว่า HTTP เป็นคำย่อของ Hypertext Transfer Protocol แต่ส่วนขยาย HTTPS ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol Secure
 
แต่ก่อนมันได้รับการพัฒนาในปี 1989 โดย Tim Berners-Lee นักประดิษฐ์ของ World Wide Web ในขณะที่ HTTPS ได้ตามมาในอีกห้าปีต่อมา ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย Netscape Communications เพื่อใช้สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ Netscape Navigator และใช้ HTTPS ควบคู่ไปกับโปรโตคอล SSL
 
อย่างไรก็ตาม ด้วยความตระหนักถึงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่เชื่อมโยงกับการท่องเว็บที่มากขึ้น ระดับความปลอดภัยจึงเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน ผลงานที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือความพยายามของ Google ในการทำให้ HTTPS เป็นค่ามาตรฐานเริ่มต้นสำหรับการท่องเว็บ ด้วยการตัดสินใจในปี 2018 ที่จะเริ่มติดป้ายกำกับ HTTP ว่า “ไม่ปลอดภัย” ซึ่งก่อนหน้านั้นการเรียกดูข้อมูลใน Chrome ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นและทำให้ถูกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ดีได้ และจากความพยายามของ Google นี้เองจึงทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้รับการปกป้องที่ดีขึ้นโดยผ่านการเข้ารหัส
 
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า HTTPS ไม่มีความเสี่ยงใดๆเลยโดยสิ้นเชิง เพราะในความเป็นจริงแล้วในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 สองในสามของคอมพิวเตอร์ที่ถูกมัลแวร์ทั้งหมดได้ติดไวรัสผ่านการเชื่อมต่อ HTTPS ที่เข้ารหัสโดยสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่เป็นเป้าหมายมากที่สุดซึ่งโดนการโจมตีเครือข่ายถึงห้าแบบที่เเป็นที่แพร่หลายที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า เพื่อป้องกันภัยคุกคามประเภทนี้ ธุรกิจควรดำเนินการตรวจสอบ HTTPS ของการรับส่งข้อมูลที่เข้ารหัส รวมทั้งมีส่วนร่วมในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามตามพฤติกรรมขั้นสูง
 

อะไรคือประโยชน์ของ HTTPS ที่มีมากกว่า HTTP

การใช้ HTTP หมายถึงการส่งข้อมูลเป็นข้อความธรรมดา ซึ่งหมายความว่าหากมีคนดักฟังข้อมูลนั้นในระหว่างการขนส่งที่เรียกว่าการโจมตีแบบคนกลาง พวกเขาจะสามารถมองเห็นข้อมูลทั้งหมดได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เพิ่มเติม
 
ในขณะเดียวกัน HTTPS จะใช้การเข้ารหัสคีย์สาธารณะผ่าน SSL/TLS เพื่อป้องกันการโจมตีประเภทนี้
 
ผู้ให้บริการเครือข่าย Cloudflare ได้ให้ตัวอย่างดังต่อไปนี้: เมื่อใช้ HTTP เพื่อส่งข้อความ "Hello World!" ผู้โจมตีจะเห็นข้อความนั้นโดยตรงพร้อมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์เมื่อข้อความถูกสร้างขึ้นและอื่นๆอีกมากมาย
 
แต่เมื่อใช้ HTTPS จะผู้โจมตีเห็นเป็นสิ่งต่อไปนี้:
't8Fw6T8UV81pQfyhDkhebbz7 + oiwldr1j2gHBB3L3RFTRsQCpaSnSBZ78Vme + DpD .... '
 
นอกจากนี้เพื่อให้เว็บไซต์มีใบรับรอง SSL ที่ช่วยให้สามารถใช้ HTTPS ได้ โดเมนจะต้องได้รับการยืนยันเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของเจ้าของเว็บไซต์จริง และในบางกรณีก็จำเป็นต้องแสดงใบรับรองทางกฎหมายเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างนั้นเป็นไปตามลำดับขั้นตอน
 
HTTPS จะช่วยปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ใน Google ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดเท่านั้นในการเข้าสู่หน้าแรก และจากสถิติมันแสดงให้เห็นว่า 84% ของนักช้อปจะละทิ้งการซื้อหากไม่เห็นแม่กุญแจสีเขียวเล็กๆ ที่อยู่ถัดจาก URL
 

วิธีเปลี่ยนจาก HTTP เป็น HTTPS

หากคุณยังไม่ได้ใช้ HTTPS เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดคุยกับบริษัทโฮสติ้งของคุณที่ควรออกและติดตั้งใบรับรอง SSL ให้คุณได้แล้ว โดยเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณจาก HTTP ไปยังเวอร์ชัน HTTPS 
 
หากไม่เป็นเช่นนั้นก็มีบริษัทบุคคลที่สามมากมายที่คุณสามารถซื้อใบรับรอง SSL ได้ จากนั้นทำการตั้งค่าด้วยตนเองบน FTP ของคุณ จากนั้นคุณจะต้องตั้งค่าการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อบอกเบราว์เซอร์ที่พยายามเข้าถึงเวอร์ชัน HTTP ของไซต์ไปยัง HTTPS แทน

ที่มา: 
https://bit.ly/3w0bfgf


ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์