Please wait...
IT UPDATE ENTERPRISE
เผย 10 กระแสนิยม เกี่ยวกับเรื่องของ Data Storage ที่น่าจับตามองในปี 2018

source

อะไรคือแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น สำหรับ Data Storage? กับบรรยากาศของช่วงต้นปีที่คุณจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการแทนที่โครงสร้างพื้นฐานของ Data Center เก่า, การรวมเข้าด้วยกันของ AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อเก็บไว้ใน Storage Stack รวมถึงการทบทวนกลยุทธ์และวิธีในการป้องกันข้อมูลของคุณ


อย่างไรก็ตาม การก้าวไปข้างหน้าของด้านไอทีที่สำคัญๆ จะช่วยให้คุณสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่คาดการณ์ได้, ไม่ล้าสมัย, และพร้อมใช้งานได้ทันทีในระบบ Cloud ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณสามารถคาดการณ์และป้องกันปัญหาต่างๆในโครงสร้างพื้นฐานได้, รวมถึงการสนับสนุนการเติบโตของข้อมูล เพื่อความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในอนาคตด้วยเช่นกัน


สำหรับปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นนี้ นับว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะพิจารณาเกี่ยวกับการลงทุนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น การแทนที่โครงสร้างพื้นฐานของ Data Center เก่า, การรวมเข้าด้วยกันของ AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประ ดิษฐ์) เพื่อเก็บไว้ใน Storage Stack ของคุณ เพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับการลงทุนของคุณ


1. Flash storage จะถูกนำมาใช้ในธุรกิจและองค์กรต่างๆ อย่างแพร่หลาย




หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีเป็นกระแสมากที่สุดในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการนำ Flash storage มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลก็จะยังคงหยิบมาใช้กันมาขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างก็ยังคงดำเนินการแทนที่ Spinning Disk ด้วย SSDs เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น, เพื่อเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน, เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ และเพื่อเป็นการลดการจัดการ แต่เราก็ยังคงเห็นการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น อย่างต่อเนื่อง เช่นการป้องกันข้อมูลแบบรวม, การจัดเก็บข้อมูลแบบ Federated Storage/Automation, การจัดเตรียมนโยบายและการสร้างระบบ Cloud สาธารณะบนโครงสร้างพื้นฐานของแฟลช ในขณะที่พวกมันยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : Flash Storage จัดว่าเป็นมาตรฐานใหม่และได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี แต่ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านความต้องการ Flash ของผู้บริโภค ทำให้เกิดภาวะขาดแคลน ในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและราคาที่ลดลง จึงมีความเป็นไปได้ว่าการขาดแคลนที่คล้ายกันนี้อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ได้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรที่จะเริ่มไตร่ตรองเพื่อทำการประเมินแพลตฟอร์ม และวางแผนการจัดซื้อ Flash Storage ตั้งแต่ตอนนี้ แทนที่จะเริ่มลงมือคิดในภายหลัง


2. Artificial intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) จะทำให้เกิดแรงฉุดอย่างมีนัยสำคัญใน Data Center



source

สำหรับผู้ขายที่ใช้ประโยชน์จากการทำ Big Data Analytics หรือ กระบวนการวิเคราะห์เซ็ตข้อมูลขนาดใหญ่ ยังคงสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตนและส่งผลต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการหาเทรนด์ทางการตลาด การหาความต้องการของลูกค้า รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำไปสู่การทำแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อโอกาสในการสร้างผลกำไรที่มากขึ้น


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ :  AI (Artificial Intelligence) จะส่งผลให้เกิดโอกาสที่จะทำให้การดำเนินงานนั้นง่ายขึ้น รวมถึงการลดความยุ่งยากในการดำเนินการ และการสั่งดำเนินการงานที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ โดยพิจารณาจากการรวมตัวของ AI เพื่อเป็นเกณฑ์การตัดสินใจในการจัดซื้อ Storage สำหรับปีนี้


3. การป้องกันข้อมูลรวม (Integrated data protection) ที่ทำได้มากกว่าการปกป้องข้อมูลของคุณ


Flash storage ได้มีการปรับการใช้งาน ในเรื่องการจัดเก็บ, ประสิทธิภาพการใช้และการจัดการ แต่ทั้งนี้การปรับการใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ยังได้ให้ความสำคัญกับความต้องการประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามต่างๆ เช่นการโจมตีประเภทต่างๆ, การทุจริตแอพพลิเคชั่น, ความล้มเหลวของระบบ, ภัยพิบัติต่างๆ และแม้แต่การปกป้องข้อมูลที่มาจากความผิดพลาดของมนุษย์ เชื่อว่าในปีนี้องค์กรต่างๆ จะทำอะไรสักอย่างด้วยความจริงที่ว่า พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่ารักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามต้องการได้โดยใช้เทคโนโลยีที่ทำงานไม่เข้ากันและทับซ้อนกัน แทนที่จะเลือก ลงทุนในแบบรวมกันในที่เดียวเพื่อการปกป้องข้อมูลสำคัญของพวกเขาในจุดๆเดียว


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : ภัยคุกคามต่อการรักษาความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของข้อมูลเป็นสาเหตุสำคัญสำหรับองค์กร การใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มความซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถลดประสิทธิภาพการทำงาน และส่งผลให้เกิดการบันทึกข้อมูลที่ซ้ำกันมากเกินไป ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการจัดการที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้ปี 2018 เป็นปีที่ดี ที่คุณจะต้องพิจารณาโซลูชั่นการป้องกันข้อมูลที่ออกแบบมาอย่างดี ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการการพัฒนาและการทดสอบ หรือกระบวนการภายในอื่น ๆ


4. Multi-cloud จะกลายเป็นความจริง



source

พอจะจำได้ไหมว่าเคยมีคนพูดคุยเกี่ยวกับการ Bursting ข้อมูลจาก On-Premises ไป-มา ระหว่าง Cloud ตั้งแต่เมื่อไหร่? ในปี 2018 เราอาจจะยังคงรอให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎทางฟิสิกส์ แต่เราก็จะเริ่มเห็นว่ามีการให้ความสำคัญกับการเคลื่อนย้ายข้อมูลมากขึ้นระหว่าง Multiple Clouds รวมไปถึง On-Premise และ Public Clouds จากผู้ขายหลายๆ ราย นั่นไม่ใช่เพียงเพราะว่า ข้อมูลสามารถเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งเพื่อไปยังอีกที่อื่นได้อย่างรวดเร็ว แต่มันเป็นการเรียกใช้ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้หลากหลายช่องทาง โดยผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับอุปกรณ์ประมวลผล รวมถึง การเรียกใช้ข้อมูลผ่านทาง Public Clouds จากผู้ให้บริการที่หลากหลาย


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้: เนื่องจากองค์กรด้านไอทีเริ่มที่จะเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้ให้บริการระบบ Clouds ที่กำลังทำงานร่วมกัน ซึ่งพวกเขากำลังทำการกำหนดเป้าหมายของแอพบางประเภท สำหรับบริการ Clouds ที่แตกต่างกันซึ่งทำงานบนระบบต่างๆ ทั้งนี้จะพบว่า ในการเพิ่มมูลค่าสูงสุดจากข้อมูลนั้น จะต้องมีมุมมองและทักษะใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการระบบ On-premises ตลอดจนการให้บริการในรูปแบบของ Cloud Services Brokerage (CSB) ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือ คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณพร้อมที่จะใช้งานบนระบบ Clouds แล้วหรือยัง


5. กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ NVMe กำลังเพิ่มมากขึ้น


กระแสความนิยมของ Flash จะยังคงแรงอย่างต่อเนื่องในปี 2018 แต่ความตื่นเต้นที่แท้จริงจะมาจากนวัตกรรม ที่ถือกำเนิดมาจากการปฏิวัติแฟลช ซึ่ง Non-volatile memory express (NVMe) ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมดังกล่าว การใช้ NVMe ทำให้เกิดปัญหาในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ การเป็นทางเลือกในการเชื่อมต่อแบบ SCSI (Small Computer System Interface) เพื่อใช้ประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่ Flash Media เท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยี Solid State ที่เป็น Next-Generation อย่าง Storage Class Memory (SCM) ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีนี้เราจะได้เห็นการใช้ NVMe ผ่าน SAS และ SATA SSDs ยังคงเติบโต แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น เราจะเห็น NVMe ก้าวกระโดดจาก Back-end ไปยัง Front end โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเริ่มต้นใช้งาน NVMe ผ่านเครือข่าย Ethernet ที่เปิดใช้งาน RDMA จะเกิดขึ้น หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ NVMe over Fabrics  (NVMeoF) นั่นเอง


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : NVMe ช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณเพื่อไปยังระดับถัดไป โดยใช้ประโยชน์จาก Massive Parallelization ของ SSDs และเทคโนโลยี SCM ในยุคหน้า ในขณะเดียวกันก็เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ SCSI ด้วย แม้ว่าการใช้มาตรฐาน NVMe แบบ Across-the-Stack จะยังอยู่ห่างออกไปบ้าง แต่การใช้ NVMe over Fabrics เป็นการพัฒนาต่อยอดของ NVMe ระหว่างโฮสต์, การรักษาความปลอดภัยของ High Bandwidth และ Throughput ตลอดจนการส่งมอบความสามารถในการจัดการกับคิวและคำสั่งจำนวนมาก


6. ควรจะมี Ethernet Storage Fabric เป็นของตัวเอง




การเพิ่มขึ้นของ NVMe over fabrics มีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกับแนวโน้มอื่นๆ  ซึ่งเราจะเห็นได้ตลอดทั้งปี 2018 ซึ่งแนวโน้มเหล่านั้น ได้แก่ การลงทุนในเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลแบบ Low-Latency, High-Bandwidth IP ในด้านของระบบเครือข่ายอีเธอร์เน็ต (Ethernet) ที่ได้มีการก้าวกระโดดอย่างมหาศาล ทั้งในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน, ราคา และความสลับซับซ้อน จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเนื่องจากมันสามารถรองรับการจัดเก็บข้อมูล, การจัดเก็บของข้อมูลในหมวดต่างๆ และแม้แต่การประมวณผล ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับบริษัทต่างๆ ที่กำลังมองหาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัยขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การมองหา NVMe over fabrics เพียงอย่างเดียว


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ :  การจัดเก็บข้อมูลอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องใช้เครือข่ายที่รวดเร็ว Ethernet switches ซึ่งทำหน้าที่เป็น Storage optimized ล่าสุด ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอและมีค่า Latency ที่ต่ำมากเป็นพิเศษหากพิจารณาความสามารถของ Ethernet Storage Fabrics ในการรองรับการรองรับเทคโนโลยี Converged, Hyper-Converged, Software-Defined, Scale-Out และการทำหน้าที่เป็น Distributed Storage ตลอดจน NVMe over Fabrics และความทันสมัยของเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูล ที่กลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งขึ้น หากคุณยังไม่มั่นใจ switches ที่มีอยู่ในตอนนี้ ว่าสามารถรองรับการอัพเกรดได้อย่างราบรื่นถึง 100Gb/s ต่อพอร์ต ซึ่งก็หมายความว่า การลงทุนของคุณจะเป็นบทพิสูจน์ในอนาคต


7.พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจะยังคงเป็น Software-defined และใช้ระบบ Hyper Convergence


การเชื่อมต่อ (Coupling) และ การแยกส่วน (Decoupling) การประมวลผล, การจัดเก็บข้อมูล และ Networking Resources ล้วนมีประวัติอันยาวนานและสลับซับซ้อน อย่างไรก็ตามในปี 2018 เรามีแนวโน้มที่จะเห็นความนิยมที่เพิ่มขึ้น สำหรับ Bare-Metal ไดร์ฟ ใน Software-Defined Storage ในขณะที่ความต้องการสำหรับความเรียบง่ายและไม่สลับซับซ้อนนี้ จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนระบบ Hyper-Convergence ซึ่งในปัจจุบันจัดว่าเป็นกลุ่มที่อัตราการเติบโตเร็วที่สุดในตลาด Storage


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : แม้ว่ารูปแบบของ Software-Defined และ Hyper-converged ดูค่อนข้างที่จะขัดแย้งกัน แต่ความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของสถาปัตยกรรมทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมีทางเลือกที่มากขึ้นและการจัดเก็บข้อมูลที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ในปีต่อๆ ไป


8.Disaggregation of storage จะมอบประสิทธิภาพการทำงานให้เหมือน HPC


Disaggregation of storage เป็นวิธีการเข้าถึงแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของปริมาณงานที่ต้องใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปได้ว่าการทำงานของระบบเครือข่ายที่มีความหน่วงต่ำ และ NVMe over Fabrics เนื่องจาก media ที่เพิ่มขึ้นและจะมีความคงทนมากขึ้นเรื่อยๆ การ Disaggregation ของ Storage Controllers จาก Storage Enclosures และการแชร์ข้อมูลระหว่างการประมวลผลหลายรูปแบบ สำหรับการประมวลผลการจัดเก็บข้อมูล จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ โดยยังสามารถใช้ประโยชน์จาก NVMe เพื่อเร่งปริมาณงานในการประมวลผลได้ด้วย


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : แตกต่างจาก Flash Storage ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบที่แยกกัน ทำให้คุณสามารถขยายขนาดได้มากขึ้นเมื่อใช้แฟลชที่มีความหนาแน่นสูง นอกจากนี้ยังสนับสนุนคุณลักษณะความพร้อมใช้งานสูงและความสามารถในการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจากศูนย์กลาง พร้อมทั้งโหนดการประมวลผลที่ให้บริการอีกหลายสิบโหนด

 

9. หน่วยความจำ Storage (Storage-Class Memory: SCM) จะมีผลต่อการตัดสินใจในการซื้อ


หน่วยความจำ Storage (Storage class memory: SCM) ได้รับการเตรียมพร้อมไว้แล้วเพื่อให้แฟลชทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน่วยความจำหรือการจัดเก็บข้อมูล ในปี 2018 เราจะเห็นว่า SCM เริ่มต้นด้วยการสร้างปัญหาใหญ่ สำหรับ Intel Optane SSDs ที่มีอยู่ในขณะนี้ พบว่าเส้นแบ่งระหว่าง RAM และ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตท (Solid State Storage) ไม่ชัดเจน


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : ความสับสนวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นของ SCM อาจทำให้คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ และคุณเองก็ควรวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จาก SCM media แม้ว่ามูลค่าของ SCM media จะก่อให้เกิดอุปสรรคก็ตาม


เพื่อที่จะนำเทคโนโลยี SCM มาใช้เป็นเกณฑ์การจัดซื้อ สำหรับการลงทุนด้าน storage ที่คุณตั้งใจจะทำในปีนี้

 

10. การนำ automation frameworks มาใช้ จะกลายเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก ต่อจากนี้ไป


Infrastructure automation ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้นและมีข้อผิดพลาดน้อยลง ในปี 2018 automated virtual infrastructures จะยังใช้งานได้ดีต่อไป แต่อาจจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จาก Containerization และการควบคุมด้วยเทคโนโลยีเช่น Docker และ Kubernetes

ด้วยเหตุนี้ในโลกของข้อมูลนั้น การใช้ Automation Frameworks สำหรับการจัดเตรียมพื้นที่จัดเก็บแบบถาวร จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก สำหรับผู้ดูแลระบบสแต็คเต็มรูปแบบ จำนวนปลั๊กอินและ SDK ที่พร้อมใช้งาน จะให้ตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่นแก่ผู้นำศูนย์ข้อมูล สำหรับการผนวกรวมของแพลตฟอร์มใหม่ในปี 2018 นี้


เหตุผลที่คุณควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ : Containerization สามารถเป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถรักษาข้อมูลและการเติบโตของแอพพลิเคชั่น ในส่วนของ Automation Frameworks จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานรวมทั้งเป็นการลดข้อผิดพลาดด้านการบริหารจัดการ โดยเพิ่มการใช้แอพพลิเคชั่นให้มากขึ้นและใช้ Workload เป็นศูนย์กลาง รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรในสภาพแวดล้อม ที่ใช้เทคโนโลยี Containerized ด้วยแรงกดดันด้านไอทีให้มีความคล่องตัวและเป็นการตอบสนองได้มากขึ้น ดังนั้น คงไม่น่าประหลาดใจที่ Automation Frameworks อาจจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในคลังแสงของคุณ


ที่มา : https://community.hpe.com
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์